วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่อง อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๑


นิทานโบราณกวีนิพนธ์ 

เรื่อง อินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๑
    ๐  รัชกา่ลที่สองมีของประหลาด    ที่เมืองราชินิกุลประยูรหงส์
   เมืองกำเนิดราชาสง่าวงศ์                กษัตริย์ที่สองครองราไชย 
     ๐ ยี่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี           เมื่อศกปีสองสามห้าสี่สมัย
พระพุทธเลิศหล้าหน้าทองขึ้นครองไทย ก็นับได้สองพรรษาในคราน้ัน 
   ๐ นางนกเมียกิมเฮ็งเก่งกว่าเพื่อน  ตั้งบ้านเรือนริมลำแม่น้ำนั่น 
ชื่อแม่กลองลำน้ำอันสำคัญ              ปากน้ำนั้นไกลสุดสมุทรสงคราม
   ๐ อยู่ตำบลแหลมใหญ่สมัยก่อน    ประชากรผู้คนไม่ล้นหลาม 
คนไทยทั้งประเทศทั่วเขตคาม         สำรวจยามนั้นประมาณห้าล้านคน
   ๐ ยังมีเจ๊กกิมเฮงคนเก่งกล้า          ลงสำเภาเข้ามาสมัยต้น
มาแต่ตัวล่อนแก่นยังแสนจน             มาได้คนไทยนั้นเป็นภรรยา
   ๐ นางนกเมียคนไทยมิใช่ย่อย       มีลูกบ่อยทุกปีดีนักหนา 
รวมเบ็ดเสร็จเก้าคนชนกันมา            รวมบิดามารดาสิบเอ็ดคน
   ๐ แต่ลูกชายสุดท้ายร้ายนักหนา    มีตัวติดชิดมาตั้งแต่ต้น
มีเอ็นยึดสีข้างมันช่างทน                  อยู่รอดพ้นโรคร้ายไม่ตายไป
    ๐ แม่นกตั้งชื่อนามตามประสา  เหมือนพฤกษาหน้าบ้านกิ่งก้านใหญ
ชื่ออินจันเหมือนผลของต้นไม้          ดูไสวเต็มต้นในหนนั้น
    ๐ ที่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี           ฝาแฝดนี้ตกฟากออกมานั่น
ศกสองสามห้าสี่ปีสำคัญ                   เตี่ยจำมั่นแม่นกแกตกใจ
   ๐ จะนั่งไหนนอนไหนต้องไปคู่       จะกินอยู่เยี่ยวขี้ต้องชิดใกล้
จะเล่นน้ำปล้ำปลาไปหาใคร              ก็ต้องไปเคียงคู่อยู่ด้วยกัน
   ๐ ปีสองสี่หกสองต้องอนาถ      เพราะโรคห่ามาระบาดน่าหวาดหวั่น
คนล้มตายไม่น้อยนับร้อยพัน        ครอบครัวแม่นกนั้นมีเคราะห์กรรม
   ๐ เจ๊กเฮงลูกหญิงชายต้องตายจาก เพราะโรคห่ามาพรากทุกเช้าค่ำ
ช่างตายได้ตายดีผีมาซ้ำ                 ปล่อยลอยน้ำอุทกไปหกคน 
   ๐ เหลือลูกอีกสี่คนจึงจนยาก        คนอดอยากปากแห้งทุกแห่งหน
แม่ลูกนกสี่คนจึงยากจน                  ต้องจำทนกินดิ้นรนไป
   ๐ ศกสองสี่เจ็ดหกไม่เสร็จเศร้า    ข่าวพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่
สวรรคตหมดบุญสิ้นสูญไป              พวกคนไทยโกนหัวทั่วแผ่นดิน
   ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ ครองสมบัติแทนบิดาน่าถวิล
ผูู้คนค่อยเฟื่องฟูการอยู่กิน             เพราะพระองค์ทรงศีลเป็นสำคัญ
   ๐ พระเป็นพระผู้โพธิสัตว์มาตรัสรู้ เกิดมากู้บารมีชาตินี้นั่น
ทรงสร้างวัดวาฝากไว้มากครัน        บางช้างน้ันสร้างวัดด้วยศรัทธา
   ๐ ทรงทราบข่าวอินจันสำคัญนัก จึงใคร่จักทอดเนตรสังเกตหน้า
จึงจัดเรือสุวรรณเรือกัญญา            เรือหลังคาแดดจ้านั้นมารับ
   ๐ นางนกจึงมอบหมายลูกชายคู่ เข้าไปสู่วังเจ้าเขามาจับ
ว่าคลอดบุตรผิดเพศเหตุบังคับ      จึงสั่งกับลูกชายว่าร้ายดี
   ๐ แม่ไม่มีอะไรจะให้เจ้า              จงฉีกเอาผ้านุ่งของแม่นี่
เป็นประเจียดกันภัยสิ่งไรมี             จึงนึกหน้าแม่นี้อยู่ในใจ
   ๐ อินจันรับเข้าวังในครั้งโน้น       ยังไม่โกนเปียน้อยที่ห้อยไหล่
อายุย่างสิบสามยังทรามวัย            มีบุญได้เข้าเฝ้าเจ้าชีวิต
   ๐ พวกเจ้านายขุนนางต่างเซ็งแซ่ เข้าเพ่งจ้องมองแลเข้าสนิท
สาวสวรรค์กำนัลในเข้าใกล้ชิด       พระนั่งเกล้าเจ้าพิศพอพระทัย
   ๐ โปรดประทานของขวัญอันมีค่า มีเสื้อผ้าข้าวของมากองให้
ทั้งเงินทองของกินและสินใช้          แล้วจึงได้กลับมาหามารดร 
   ๐ มีเงินซื้อเป็ดเลี้ยงส่งเสียงก๊าบ  จึงได้ลาภจากไข่ไม่หยุดหย่อน
เลี้ยงเป็ดไข่ขายเขาชาวนคร           มีทุนรอนมั่งคั่งขึ้นตั้งตัว
   ๐ มีเป็ดดีสีขาบให้ลาภมาก          มันผิดจากเป็ดล้วนอยู่ถ้วนทั่ว
มันฉลาดเหลือใจขึ้นไต่รั้ว               มิใช่ชั่วไต่ลวดอวดทุกวัน
   ๐ มันไต่ลวดเส้นเดียวน่าเสียวไส้ มันขึ้นไต่เล่นกลเช่นคนนั่น
เศรษฐีใหญ่มาอ้อนวอนทุกวัน        ขอซื้อมันไปเลี้ยงเพียงเจ็ดคืน
   ๐ เป็ดสีขาบก็ตายวายชีวิต          เพราะมันคิดถึงเจ้าของต้องข่มขืน
มันไม่กินข้าวน้ำไม่กล้ำกลืน           มันนิ่งยืนตายเสร็จในเจ็ดวัน
   ๐ แม่นกบอกว่าเตี่ยเขาเสียใจ     มาเกิดใหม่ให้ลาภสีขาบนั่น 
เมื่อต้องห่างไกลลูกที่ผูกพัน          มันจึงกลั้นใจตายใจหายครัน
   ๐ ปีสองสามเจ็ดสองก็หมองเศร้า มีสำเภาขึ้นล่องแม่กลองนั่น 
มิสเตอร์ฮันเตอร์ตัวสำคัญ              ทั้งกัปตันคอลฟินได้ยินยล
   ๐ เข้ามาดูฝาแฝดเจ็ดแปดคร้ัง    เข้ามานั่งเรือนแม่นกถึงหกหน
ว่าขอซื้ออินจันลูกคนจน                ไปให้ชนชาวฝรั่งเขานั่งดู  
   ๐ มันให้สามพันดอลล์แต่ก่อนเก่า มีค่าเท่าเงินไทยไม่น้อยอยู่
แม่นกไม่ขายลูกดูถูกกู                  มันก็ทู้วิงวอนจนอ่อนใจ
   ๐ หนักหนักเข้าขอเช่าสองปีครึ่ง มันให้ถึงห้าร้อยหาน้อยไม่
เงินดอลลาร์ห้าร้อยจะว่าไป           เป็นเงินไทยร้อยชั่งมั่งคั่งนัก
   ๐ แม่นกไม่ยอมให้ไม่ไว้หน้า      พวกฝรั่งมังค่าไม่รู้จัก
นายคอฟฟินหายหน้าไม่ช้าชัก       มันก็มักมาใหม่ลูกไม้ดี
   ๐ มันไปกราบทูลเล่าเจ้าอยู่หัว    ว่าขอตัวอินจันทั้งน้องพี่
ไปเข้าเฝ้าเจ้าญวนชวนไมตรี         ให้เป็นที่รักกันสัมพันธมิตร
   ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าเห็นเป็นประโยชน์ อยากจะโปรดญวนไว้ให้สนิท
จึงประทานทูตไทยไปใกล้ชิด       ประกาศิตอินจันให้มันเอา
   ๐ เจ้าฝรั่งมังค่าปัญญามาก        มันก็บากบั่นต่อมาขอเข้า
ถ้าแม่นกไม่ให้ก็ใจเบา                  เกรงพระเจ้าชีวิตผิดพระทัย
   ๐ อินจันว่าแม่ให้เขาไปเถิด     เดี๋ยวจะเกิดความเมืองเป็นเรื่องใหญ่
เพียงสามเดิอนจะกลับมาฉับไว     แม่อย่าได้ห่วงหาลูกยาเลย
   ๐ แม่นกนึกใจอ่อนลูกอ้อนออด  ไม่ทิ้งทอดแม่ไปไหนเฉยเฉย
ลูกก็เต็มใจไปได้ภิเปรย                 ลูกไม่เคยลืมคุณของมารดา 
   ๐ จึงมอบลูกให้ไปร้องไห้สั่ง       ให้ฝรั่งปกปักษ์ช่วยรักษา
มันให้เงินห้าร้อยเคลื่อนคล้อยลา   ว่าจะพาเที่ยวเฟื่องถึงเมืองญวน
   ๐ ปีสองสามเจ็ดศูนย์พูนสวัสดิ์    จึงต้องตัดใจปลิดจิตกำสรวล
จำต้องไกลจากอกแม่นกนวล         ต้องคร่ำครวญจากลำแม่น้ำกลอง
   ๐ เข้าบางกอกออกลำแม่น้ำกว้า ต้องเดินทางเคลื่อนคล้อยนั่งลอย
ล่อง
    ถึงแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำตานอง     สำเภาทองลำใหญ่ใช้ใบกาง
   ๐ กลาสีไม่น้อยสักร้อยกว่า         มีสินค้ามากยิ่งสิ่งต่างต่าง
    ทั้งข้าวสารน้ำตาลและงาช้าง   ไปค้าทางเมืองญวนจวนเวลา
   ๐ เรือออกจากเจ้าพระยาหันหน้าเร่ ออกทะเลคลื่นลมระดมกล้า
ต้องเมาคลื่นขื่นขมต้องดมยา          กินข้าวปลาไม่ได้ไปหลายวัน
   ๐ เรือสำเภาเข้าทอดจอดตามท่า ซื้อสินค้าเครื่องเทศตามเขตขัณฑ์
ขายข้าวสารน้ำตาลของไทยนั้น      ฝรั่งมันซื้อของตามรายทาง
   ๐ สี่สิบสองวันเศษถึงเขตขัณฑ์    กรุงไซ่ง่อนก่อนน้ันอยู่ไกลห่าง
เจ้าเมืองญวนจำนงให้ส่งช้าง          สิบสี่เชือกต่างรับทูตไทย
   ๐ ราชทูตของไทยที่ไปด้วย         ก็ได้ช่วยอินจันประกันให้
ทางเมืองญวนยำเยงคิดเกรงใจ       ส่งช้างใหญ่รับสิ้นทั้งอินจัน 
   ๐ เขาชักรอกอินจันขึ้นชั้นช่อ        ให้นั่งคอขึ้นนั่งหลังช้างนั่น
ฝูงชนก็สารพาเข้ามาพลัน               เฮโลกันแห่ห้อมเข้าล้อมดู
   ๐ ทหารญวนใช้ไม้เข้าไล่ตี           ฝูงชนหนีแตกซ่านเหมือนหมาหมู
ทหารร้อยนายล้อมเข้าพร้อมพรู      ป้องกันหมู่คนบ้าเข้ามารุม 
    ๐ พักอยู่เมืองไซ่ง่อนกระฉ่อนเรื่อง พวกชาวเมืองมุงหน้ามารุมตุ้ม
ต้องส่งกองทหารม้าเข้ามาคุม        อินจันหนุ่มเที่ยวเฟื่องในเมืองญวน
   ๐ เขาต้อนรับทูตไทยอย่างใหญ่โต มีเล่นโอ่อวดดีอย่างถึ่ถ้วน
เอาเสือมาสู้ช้างกลางกระบวน        ว่าญวนล้วนกลัวเสือเหนือกว่าไทย
   ๐ ช้างมันกลัวเสือกัดสะบัดไม่หลุด มันจึงหยุดไม่กล้าเข้ามาใกล้
ควาญก็ตีช้างซบสลบไป               เอาช้างใหม่ตัวที่สองลองกำลัง
   ๐ ช้างมันตกมันบ้าคว้าไมอยู่      ควาญช้างผู้อาภัพถูกจับนั่ง
เพชรฌาตตัดคอมรณัง                  นายอินจันหันหลังไม่อยากดู
 ๐ เขาเอาช้างเชือกใหม่ใส่พะเนียด แล้วแล่นเฉียดเสือสางหมดทางสู้
เพราะเขาผูกคอไว้ไม่ให้รู้               ช้างจับชูเชือกแว้งขึ้นแกว่งไกว
   ๐ เชือกที่รัดคอเสือไว้เหลือหลาย จนเสือตายตกดินดิ้นไม่ไหว
อันคนญวนทั่วถ้วนน่ากลัวใจ           เขาดูได้ดูดีไม่มีธรรม
   ๐ เขาจัดให้กองทหารชาญสนาม ทำสงครามกับช้างช่างน่าขำ
น่าสมเพศเวทนาไม่น่าทำ              อวดว่าช่ำชองยุทธ์สุดประมาณ
   ๐ เขาให้กองพลทหารชำนาญรบ ไปนั่งหลบไม้ในกองไพรสาณฑ์
แล้วปล่อยโขลงช้างมาไม่ช้านาน   ให้ทหารจุดไฟลุกไหม้แดง 
   ๐ ช้างก็แตกตื่นไฟไหม้โชติช่วง  ทหารหลวงมีชื่อฝีมือแสยง 
ยิงธนูถูกช้างอยู่กลางแปลง            ช้างยืนแข็งอยู่กับที่ไม่หนีไป
   ๐ เพราะว่าถูกควาญช้างมันคว้าขอ เข้าสับหัวช้างล่อทนไม่ไหว 
ฝ่ายทหารตัวดีก็มีชัย                      อินจันได้ชมดูห่ดหูนัก 
   ๐ ยี่สิบวันผ่านไปมิใช่ย่อย            เฝ้าแต่คอยพระองค์ผู้ทรงศักดิ์
คือพระเจ้ากรุงญวนจะชวนชัก         คณะทูตไทยไปคำนับ
   ๐ นายอินจันไม่ได้ไปไหนอีก       ต้องหลบหลีกผู้คนที่สนสับ
เข้ามาห้อมล้อมดูดูยุบยับ                เหลือจะรับประทานพลุกพล่านไป
   ๐แล้วพระเจ้ากรุงเว้มเหศร           ก็จัดต้อนรับราชทูตใหญ่
ส่งเรือหลวงมารับโดยฉับไว            ให้ขึ้นไปเฝ้าเฟื่องที่เมืองเว้
    ๐ ราชทูตไทยเราเข้าเฝ้าแหน     หน้าพระแท่นเจ้านั่นไม่หันเห
เจ้าญวนทักถามกันอยู่นานเน          แล้วสรวลเสผินผันดูอินจัน
    ๐ ตรัสว่าเมืองเรามีอยู่ถี่ถ้วน        ฝาแฝดล้วนมีอยู่หลายคู่นั่น
แต่เราไม่ใคร่เห็นเป็นสำคัญ            เพราะของมันธรรมดาฝาแฝดไทย
     ๐ ทางเมืองญวนถือว่าคนอาภัพ  เป็นสิ่งอัปมงคลชนชั้นไพร่
เราไม่เลี้ยงคนแฝดแปดเปื้อนไป     เราขับไล่ให้ออกไปนอกเมือง
     ๐ ทรงโอภาปราศรัยพระทัยซื่อ  น่านับถือเจ้าเชื้ออยู่เหลือหลาย 
ยังประทานของฝากให้มากมาย      ไม่อับอายเกิดตนเป็นคนไทย
    ๐มอบของขวัญบรรณาการฝากสารทูต ให้ช่วยพูดจาเล่าเจ้ากรุงศรี
ว่าญวนรับทูตไทยด้วยไมตรี            เจ้ากรุงไทยได้มีเมตตาเรา 
    ๐ องค์พระพุทธยอดฟ้ามหาราช ทรงช่วยชาติญวนร้อนมาก่อนเก่า
 องเชียงชุนเชียงสือนับถือเอา         พระยอดฟ้าเป็นเจ้าบุญคุณมา 
     ๐ สิ้นสามวันท่านทูตเดินทางกลับ เรือญวนรับส่งให้ไปถึงท่า
กลับไซ่ง่อนจรเนื่องเมืองนานา        เข้าถึงเจ้าพระยามหานคร
     ๐ เข้าเฝ้าพระนั่งเกล้าเจ้าชีวิต    ทูตทูลกิจต่อองค์พระทรงศร
พระทรงพอพระทัยตรัสให้พร          ให้เงินทองกองก้อนเป็นรางวัล
    ๐ อินจันได้ลาภทานจากผ่านฟ้า  รีบกลับมาแม่กลองมอบของขวัญ  ให้แม่นกยกให้มากมายครัน            นายอินจันต้ังใจไปเมริกา 
     ๐มิสเตอร์ฮันเตอร์พาเพ้อฝัน      ให้อินจันอยากไปเมืองไกลกว่า
อยากเห็นบ้านเมืองไกลในโลกา     ที่ก้าวหน้ารุ่งเรืองกว่าเมืองไทย
     ๐ ส่วนกัปตันคอฟฟินขนสินค้า   คือปืนผามาขายถวายใหม่
พอดีเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ไกล      คิดขบถคตใหญ่ยกทัพมา
     ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าชีวิตจึงคิดปราบ ให้ราบคาบลงไปไม่ใหญ๋กล้า
ซื่้ออาวุธกัปตันไม่ทันช้า                 โปรดเมตตาคอฟฟินสินน้ำใจ
     ๐ มิสเตอร์ฮันเตอร์เมื่อเจอมิตร  จึงได้คิดตีสนิทเข้าชิดใกล้
 สองฝรั่งวางแผนคิดกาลไกล         ชวนกันไปแม่กลองรับรองกัน
     ๐ให้เงินแม่นกหน่อยให้ปล่อยบุตร ไม่ยื้อยุดห้ามหวงคอยถ่วงนั่น
แต่ไว้ใจใต้ลิ้นนายอินจัน                 เขาเชื่อมั่นกัปตันว่าใจดี 
    ๐ สามสิบเอ็ดมีนามหาโชค         อินจันต้องท่องโลกให้เต็มที
ออกจากแม่กลองนั้นไปทันที          แม่นกพี่น้องได้พร้อมใจกัน
    ๐ มองเห็นหน้าลูกชายใจหายคว่ำ เห็นหมองคล้ำรู้สึกนึกสังหรณ์
เห็นหน้าคร้ังสุดท้ายไม่ม้วยมรณ์    แม่จะต้องตายก่อนหรืออย่างไร
     ๐ จึงกอดลูกอินจันรำพันว่า       กลับให้แม่แลหน้าให้จงได้
ขอฟ้าดินจงโปรดคุ้มโทษภัย         กลับมาให้แม่เห็นก่อนเป็นตาย 
     ๐ นายอินจันอั้นอึ้งคิดถึงแม่      เฝ้าแต่แลแล้วเล่าเศร้าใจหาย
แต่ต้องทำองอาจว่าชาติชาย         ร้องไห้อายฝรั่งมันนั่งมอง 
    ๐ ขึ้นบนเรือสำเภามีเสาใบ            เป็นเรือใหญ่เหลือที่ไม่มีสองเรือ"ซาเค็มใหญ่เขื่องดูเรืองรอง แล่นออกท้องทะเลลึกเหลือตรึกตรา
     ๐ หันหน้ามองอ่าวไทยแล้วใจเศร้า แม่นกเฝ้าร้องไห้อาลัยหา
นับแต่วันนี้ไปมิได้มา                      ไม่เห็นหน้าแม่แล้วต้องแคล้วกัน 
    ๐ แต่นึกใหม่มิใช่จะไปลับ          เราต้องกลับมาแน่ไม่แปรผัน
สองปีครึ่งไม่นานนักหนาครัน         คงมีวันเห็นหน้ามารดาเรา
 ๐ แลเห็นนกนางนวลบินสวนทาง ใจอ้างว้างเลื่อนลอยแสน
                                                       หงอยเหงา
 นกนางนวลเหมือนแม่ไม่บางเบา   โอ้นกเจ้าลอยธารเหมือนมารดา
    ๐ เจ้านกน้อยลอยเร่ทะเลหลวง  เปรียบเหมือนดวงใจแม่ชะแง้หา
นกนางนวลเจ้าเอ๋ยจะเลยลา           บอกแม่ว่าลูกชายจะตายรัง 

โปรดติดตามตอนต่อไป  


     
     













  



                  

           

     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น