วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรืองอินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๔


นิทานโบราณกวีนิพนธ์
เรื่องอินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๔

    ๐ ที่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี                 ศกสองสามห้าสี่ปัจจัยห้า*
วันกำเนิดจันอินถิ่นธารา                          อันเรียกว่าแม่กลองนองนที
    ๐ มีพ่อจีนแม่ไทยในประวัติ                คุณสมบัติล้วนอยู่ถ้วถี่
ฉลาด ขยัน อดทน เป็นคนดี                   ซื่อสัตย์ มีกตัญญูรู้คุณคน
    ๐ เสียสละ ภักดี มีวินัย                        มีนิสัยประหยัด ไม่ขัดสน
รับผิดชอบ หน้าที่ชีวิตตน                       มีเหตุผล เลื่อมใสในพระเจ้า
    ๐ คุณสมบัติสิบสองข้อโดยย่อนี้         ปรากฎมีอยู่ทั่วในตัวเขา
อยู่ในสายเลือดตั้งแต่ยังเยาว์                 จนตราบเท่าวันตายไม่หายไป
    ๐ ที่สิบหกมกราคมอุดมศรี                 ศกสองสี่หนึ่งเจ็ดเสร็จสมัย
เขาลาโลกดับดิ้นลงสิ้นใจ                      อายุได้หกสิบสามไม่ข้ามปี
    ๐ ฝากชื่อเสียงอินจันสนั่นหล้า           เขาเกิดมาตัวติดดูผิดที่
แต่ไม่ยอมแพ้ภัยในชีวี                           เขาเอาดีจนได้ในชีวิต
    ๐ ควรจะเป็นเยี่ยงอย่างแต่ปางก่อน   ควรจะเป็นเช่นสอนสุภาษิต
คุณสมบัติสิบสองข้อขอจงคิด               ติดอยู่ในโลหิตของคนเจ๊ก
    ๐ ข้าพเจ้าวิจัยนิสัยเขา                     อยากให้เรานิยมอบรมเด็ก
นิสัยนี้ฝังแต่ยังเล็ก                              จะเป็นเหล็กน้ำพี้อย่างดีครัน
    ๐ ซาร่ายาเดสตายวัยเจ็ดสิบ           จะขอหยิบมาแผ่แต่สั้นสั้น
เกิดสิบแปดธันวาคมเป็นสำคัญ            สองสามหกห้านั้นกำเนิดมา
    ๐ ยี่สิบเก้าเมษาก็ลาลับ                   ศกลำดับสองสี่สามสิบห้า
อยู่กินกับนายอินมานานช้า                  นับเวลาได้สามสิบเอ็ดปี
    ๐ อาติเลตยาเลสพิเศษสาว             มีอายุยืนยามเก้าสิบสี่
เกิดสิบเอ็ดตุลาต่อมาปี                        อ่อนกว่าพี่สาวศรีหนึ่งปีคูณ
    ๐ ยี่สิบเอ็ดพฤษภาก็ลาลับ              ศกลำดับสองสี่เศษหกศูนย์
เก้าสิบสี่ปีมาจึงอาดูร                           ต้องดับสูญไปเสียเมียนายจัน
    ๐ขอเคารพจบกลอนอักษรสาร        เล่านิทานนี้เป็นเช่นของขวัญ
เรื่องของฝาแฝดสยามนามสำคัญ       เป็นเรื่องจริงอัศจรรย์นิทานเอย

                                                      จบบริบูรณ์ 

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่องอินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๓

นิทานโบราณกวีนิพนธ์
เรื่อง อินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๓
    ๐ ฮันเตอร์อยู่เมืองไทยในยามนั้น    ได้เป็นชั้นเจ้าคุณจรูญศรี
พระนั่งเกล้าเจ้าตั้งให้อย่างดี        ได้เป็นที่โปรดเกล้าฯของเจ้านาย
    ๐ พระนั่งเกล้านั่นชั้นเจ้าสัว       มีเรือสำเภาเข้าไปค้าขาย
รวยมาก่อนเสวยราชย์ชั้นเจ้าชาย  มีเงินฝากมากมายในพระคลัง
    ๐ ใส่ถุงแดงเอาไว้มิใช่ย่อย       มีมากมายไม่น้อยหลายหมื่นชั่ง
ใช้สร้างวัดหลายโกฎิไม่หมดคลัง  รัชกาลชั้นหลังยังได้ใช้
    ๐ เมื่อฝรั่งเศสมาเข้าหาเรื่อง     ยึดเอาเมืองจันทบุรีเราไปได้
ส่งเรือรบลงมาเข้าในอ่าวไทย        จนถึงได้ยิงกันสนั่นกรุง
    ๐ ก็ได้เงินถุงแดงไปแบ่งห้าม    เข้าใช้หนี้สงครามหลายหมื่นถุง 
สิ้นพระนั่งเกล้าไทยอีกหลายคุ้ง    ไทยต้องยุ่งกับฝรั่งระวังตัว
    ๐ ฝ่ายนายอินนายจันสำคัญมาก  ตั้งรกรากเมืองฝรั่งจนฝังหัว
แปลงชาติเป็นมะริกันเข้าพันพัว      เป็นสุขชั่วลูกหลานมานานปี   
    ๐ มีที่ดินถิ่นฐานมีบ้านช่อง         มีเงินทองมากครันขั้นเศรษฐี
นายจันมีที่ดินทำกินดี                    สี่ร้อยยี่สิบห้าเอเคอร์ควร
    ๐ มีทาสสิบเอ็ดคนไม่จนยาก    มีหลายหลากสินทรัพย์นับไม่ถ้วน
มีลูกสิบเอ็ดคนครบจำนวน            อาคิเลตเนื้อนวลเป็นขวัญใจ
    ๐ นายอินมีที่ดินถิ่นสถาน          อยู่ประมาณสามร้อยเอเคอร์ได้
มีลูกสิบคนถ้วนจำนวนใน              ซ่าร่าห์ได้เคียงคู่อยู่ด้วยกัน
    ๐ ที่สิบหกมกราเวลาดึก            จันรู้สึกกระสับกระส่ายหัวใจสั่น
คอแห้งผากอยากน้ำเป็นสำคัญ     ปลุกอินนั้นให้ตื่นลุกขึ้นไป
    ๐ นั่งผิงไฟในห้องอินต้องฝืน    จึงชวนจันนั้นคืนไปนอนใหม่
ตีสี่บุตรนายจันจึงเข้าไป               พบพ่อจันสิ้นใจนอนหลับตา
    ๐นายอินตื่นขี้นมาถามหาพี่       ยังอยู่ดีหรือไรมือไขว่หา
วิลเลี่ยมบอกพ่อตายวายชีวา        นายอินว่าเช่นนั้นฉันก็ตาย
    ๐ เขาดึงจันมากอดตลอดร่าง   ร้องไห้พลางคิดไปก็ใจหาย
เขาเหงื่อท่วมตัวทั้งร่างกาย         หัวใจวายไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
    ๐ ที่สิบเจ็ดมกราเขาลาจาก      อินจันพรากโลกไปไม่ตายโหง
ถึงตายดีเขาก็เอาไปเข้าโลง        ต้องลาโรงละครใหญ่โลกไปลับ
    ๐ ยี่สิบห้าปีก่อนเขาจรจาก      แม่กลองพรากลับไปแล้วไม่กลับ
สามสิบหกถ้วนปีเขาลี้ลับ            ควรจะนับเป็นบุรษสุดสำคัญ
    ๐ เขาฝากชื่อไว้ให้ลือลั่น        "นายอินจัน ไซมิสทวิน" นั่น
ทำให้โลกรู้จักร้องทักกัน             นามอินจันโด่งดังครั้งกระโน้น
    ๐ฝรั่งว่าโลกหรือคือโรงละคร   แต่ไทยสอนคนเช่นเขาเล่นโขน
ล้วนเต้นวิ่งลิงโลดกระโดดโจน    เหมือนลิงโลนเหมือนยักษ์เพราะรัก
                                                    ชัง
    ๐ เมื่อชีพดับลับโลกก็โศกเศร้า ทิ้งชื่อไว้ให้เขาคนข้างหลัง
นั่งสรรเสริญเยินยอเหมือนอยู่ยัง   ให้เขานั่งนินทาเหมือนบ้ายอ
    ๐ ล้วนเวียนว่ายตายเกิดประเดิดประดัก  ให้เขารักเขาชังนั่งหัวร่อ
เรื่องนายอินนายจันนั้นก็พอ           จะเป็นข้อเตือนจิตสะกิดใจ
    ๐ เกิดมาในโลกนี้จะดีชั่ว            ก็เป็นตัวตนอยู่ครู่ใหญ่ใหญ่
แล้วก็ลาโลกดับล่วงลับไป             เหมือนกับไม่เคยเกิดกำเนิดมา
    ๐ตายไปเป็นอะไรก็ไม่รู้              แต่พระผู้มีพระภาคท่านตรัสว่า
คนเวียนว่ายตายเกิดทุกเวลา         เหมือนฝนฟ้าตกใหญ่น้ำไหลพรู
    ๐ อยู่ในห้วยในหนองในคลองบึง ไหลไปถึงในลำแม่น้ำอยู่
ไหลไปถึงพระสุมทรไกลสุดรู้         เป็นไอสู่ฟากฟ้าทั่วสากล
    ๐ เป็นเมฆหมอกเป็นน้ำค้างกลางยอดหญ้า เป็นหิมะตกมาเป็นน้ำ
                                                                         ฝน 
ไ่ม่เคยจากภาพพื้นภูวดล                 ไหลเวียนวนเช่นนี้ล้านปีมา
 ๐ น้ำระเหยแห้งหายกลายเป็นอื่น แล้วกลับคืนไม่แห้งจากแหล่งหล้า
ถ้าหายไปวันละหยดหมดโลกา        แต่น้ำฟ้าไม่เคยหมดเลยไป
   ๐ เหมือนชีวิตผู้คนเวียนวนอยู่       เกิดแล้วตายไม่รู้ไปอยู่ไหน
แต่พระสัพพัญญูล่วงรู้ไกล      เพราะทรงได้ทิพยเนตรเห็นเหตุการณ์ 
    ๐ ถ้าพระสัพพัญญูยังอยู่ไซร้        คงชี้ให้เราแจ้งแหล่งสถาน
ที่อินจันไปเกิดกำเนิดนาน                อยู่ในบ้านเมืองใดในโลกา 
๐พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าสัตว์มนุษย์ ตายแล้วผุดเปลี่ยนหน้าขึ้นมา
                                                           ใหม่
เพราะปัจจัยปรุงแต่งจนแจ้งใจ           แยกออกได้ใจอย่างกับร่างกาย
   ๐หนึ่ง"กัมมัง เขตตัง"กรรมตั้งมั่น   เป็นเขตขัณฑ์นาไร่สวนทั้งหลาย
สอง"วิญญานัง พีชัง"ดุจดังคล้าย  วิญญาณย่อมละม้ายคล้ายพืชพันธุ์
    ๐สาม"ตัณหัง สิเนโห"คือตัณหา  เป็นเสน่ห์อยากเกิดมาในโลกนั่น
เกิดเป็นคนเป็นสัตว์สารพัน              ชีวิตนั้นอุบัติด้วยปัจจัย
   ๐ จนเราลุอรหัตตัดกิเลส              จึงสิ้เหตุเกิดกายาขึ้นมาใหญ๋
ใครว่า"ตายสูญ"พ้นอย่าสนใจ         ถึงจะใหญ่ยศถาชั้นอาจารย์
    ๐เป็นมิจฉาทิฎฐิดำริผิด               จะจมมิดนรกสิ้นอวสาน
ดำริผิดบาปหนาคนสามานย์            ห้ามสวรรค์นิพพานนามนานมา

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่อง อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๒


นิทานโบราณกวีนิพนธ์

อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๒


    ๐ วันที่หนึ่งเมษาต้องลาจาก    จะขอฝากฟ้าดินถวิลหวัง
ให้แม่จงอยู่ดีในชีวัง                     จนกระทั่งกลับมาเห็นหน้ากัน
    ๐เรือซาเล็มแล่นคว้างกลางสมุทร ก็มาหยุดเทียบท่าถึงเขตขัณฑ์
สิงค์โปร์เมืองท่าค้าสำคัญ           แล้วแล่นลั่นไปท่าปัตตาเวีย
    ๐ แวะจอดทุกเมืองท่าเข้าค้าขาย เข้าขนถ่ายสินค้าไม่ยอมเสีย
แล้วจึงออกเรือแล่นไปแอนเจีย    ข้ามสมุทรอินเดียมุ่งหน้าไป
    ๐ แวะเกาะเมริตัสแล่นตัดเข้า   เมืองเคพทาวน์ที่แอฟริกาใต้
ถึงเกาะเซนต์เฮเลน่าชลาลัย       ข้ามไปในมหาสมุทรแอตแลนติด
    ๐ ผ่านเกาะแอสเซพชั่นคั่นสมุทร ภูเขาไฟไม่ผุดขึ้นมาอีก
คลื่นลมพัดเรือนั้นสั่นระริก            แทบจะพลิกคว่ำไปในทะเล
    ๐ เรือแวะจอดที่ท่าเบอร์มิวด้า  เป็นเมืองท่าใหญครันไม่หันเห
นายฮันเตอร์ลมชมสมคะเน          แยกเรือเร่ไปนครลอนดอนพลัน
    ๐ ระหว่างทางอินจันน้้นสดชื่น  ไม่เมาคลื่นลมชวนกันสรวลสรรค์
เขาฝึกพูดอังกฤษฟุดฟิดกัน         ได้ครูชั้นกลาสีอย่างดีจัง 
    ๐ เขาฝึกเล่นเช็คเกอร์ไม่เก้อเขิน แต่เก่งเกินครูได้ในภายหลัง
เขาดื่มเหล้าดวดกับพวกจับกัง     แต่กำลังเขาดีไม่มีเมา
    ๐ เขาไต่เสากระโดงได้สูงไกลลิบ ฝรั่งขยิบตาจ้องมองดูเสา
เขาไต่คู่ไม่เชื่อก็เหลือเดา          ไม่รู้เขาไต่ได้อย่างไรกัน
    ๐ เขากระโดดโลดเต้นเป็นจังหวะ ไม่ปะทะไม่ลังเลไม่เหหัน
เจออะไรขวางไว้ก็ไหวทัน           คราวหนึ่งนั้นวิ่งชนกันบนเรือ
    ๐ ไปพบช่องฝาพื้นเปิดขึ้นไว้  สำหรับไต่ลงบันไดช่างเหลือเชื่อ 
เขาโดดแผล็วข้ามฟลุ๊กเหมือนลูกเนื้อ โดดข้ามเชื้อกองไฟอันใหญ่                                                                   โพลง
    ๐ ที่สิบหกสิงหาเวลาเช้า        เรือก็เข้าเทียบท่าท้องฟ้าโปร่ง
ถึงบอสตันเวลาเช้าห้าโมง         เรือผูกโยงเข้าสู่อู่สินค้า
    ๐ มีสินค้ามาขายมากมายเหลือ มีหนังเสืองาช้างอันมีค่า
มีเขาควายน้ำตาลทรายก็มีมา    ดีบุกครั่งใบชาและพริกไทย
    ๐ เป็นเหมือนพรหมลิขิตชีวิตเขา อินจันเข้าเหยียบเขตประเทศใหม่
อเมริกาเป็นถิ่นแผ่นดินไกล       อันใครใครใฝ่ฝันดั้นด้นมา
    ๐ คนอื่นเสียเงินทองต้องลำบาก จึงข้ามฟากมหาสมุทรมาเทียบท่า
แต่อินจันเขาจ้างเหมือนช้างม้า  เอามาค้าขายให้คนได้ดู
    ๐ ที่สิบหกสิงหาน่าประหลาด ประวัติศาสตร์จดไว้ว่าคนคู่
ไซมิสทวินอินจันอันโฉมตรู        ได้มาสู่ประเทศอเมริกา
    ๐ประเทศใหม่ได้เกิดกำเนิดนาม ห้าสิบสามพระศกตกพรรษา
นายอินจันก็เกิดกำเนิดมา         ได้สิบแปดปีกว่ากับสามเดือน
    ๐ อันบุรุษแฝดใดในโลกนี้     คงไม่มีหมื่นแสนมาแม้นเหมือน
ไซมิสทวินอินจันเหมือนหมั่นเตือน มิให้เลือนลืมสยามนามอินจัน
    ๐ประธานาธิบดีเขามีอยู่         ชื่อว่านายแอนดรูวงศ์แจคสัน
พุทธศกสองสามเป็นสำคัญ       มีเศษน้ันได้เจ็ดสิบสองปี
    ๐นายอินจันไปอูยกู่ไม่กลับ   พรหมลิขิตบังคับเขาเต็มทีี
กลายเป็นคนเมริกันทุกวันนี้       แต่มีชื่อสืบเนื่องถึงเมืองไทย
    ๐ อินจันอยู่มะริกาไม่ผาสุก    ต้องทนทุกข์หม่นหมองแทบร้องไห้
ให้คนดูแสดงตัวอยู่ทั่วไป          เข้าอยู่ในละครสัตว์เป็นอัตรา
๐ ได้ค่าตัวต่ำลิบเดือนสิบเหรียญ ต้องภาคเพียรบั่นบากต้องตากหน้า
                                                   
ให้ดูสิ่งน่าอายในกายา             เหมือนคนบ้าปนสัตว์จัดแสดง
    ๐ บางทีต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด ให้เขาถอดเสื้อผ้าอยู่หน้าแห้ง
พวกฝรั่งไม่น้อยมันคอยระแวง   ว่าเสแสร้งเอ็นสัตว์ติดมัดไว้
  ๐ ต้องให้นายแพทย์มาตรวจตราก่อน เขียนอักษรประกาศขนาดใหญ่
ว่านายแพทย์มีชื่อเลื่องลือไกล  ได้ตรวจได้เช็คก่อนแน่นอนแล้ว
   ๐ ถึงกระนั้นพวกฝรั่งยังไม่เชื่อ ต้องถอดเสื้อให้เห็นเอ็นใสแจ่ว
เอ็นเนื้อคนดีดีไม่วี่แวว                จะแหกตาหาแก้วอะไรกัน
    ๐ พวกฝรั่งโสโครกก็โปกฮา   ล้อเลียนว่าต่างต่างอย่างขำขัน
ว่าไซมิสมังกี้นี่ดีครัน                  ตัวติดกันเสียด้วยซวยระยำ
     ๐ นายอินจันจะถลันเข้าเตะปาก มันถอยฉากหายหัวตัวก็ต่ำ
เตะไมถึงปากฝรั่งชั่งมีกรรม      แสนจะช้ำอุราต้องหากิน
    ๐ มิสเตอร์คอฟฟินก็สิ้นสุด    เป็นมนุษย์โหดร้ายใจเป็นหิน
อาหารดีไม่มีจะแตะลิ้น             เนื้อเค็มชิ้นหั่นผสมขนมปัง
    ๐ อันที่พักที่ผ่อนหลับนอนนั้น ติดอยู่ชั้นเพดานปานห้องขัง
แสนคับแคบแอบรกสกปรกจัง   หนูมานั่งเดินดูอยู่ทุกวัน
    ๐ ป้ายประกาศโฆษณาที่หน้าเต๊นท์ ใครอ่านเห็นถ้อยคำก็ขำขัน 
"อสูรกายไซมีส" อัศจรรย์         ตัวติดกันเหมือนปีศาจประหลาดตา
    ๐ แต่จันอินลูกจีนผสมไทย   มีจิตใจบึกบึนอย่างขึ้นหน้า
ขยัน อดทน ประหยัดเป็นอัตรา  กตัญญูสู้หน้าผู้เป็นนาย
    ๐ ซื่อสัตย์สุจริตไม่คิดหนี     ใจจงรักภักดีไม่รู้หาย
ศรัทธาพระเจ้าอยู่หัวไม่รู้วาย    จึงรอดตายคลายเศร้าเท่าทุกวัน 
    ๐ ทั้งฉลาดล่่วงรู้ทางสู้หนี    ทั้งรู้ทีแพ้พ่ายด้วยใจมั่น
ไม่หวั่นไหวใจกล้าเฝ้าประจัญ  มีมิ่งขวัญมั่นคงปลงจิตใจ
    ๐คุณสมบัติเหล่านี้มีครบถ้วน   จึงยืนทวนกระแสแม่น้ำไหล
คือกระแสโลกนี้ซึ่งมีภัย           ให้อยู่ได้รอดตัวทั้งชั่วดี 
    ๐ แพทย์เคยตรวจร่างกายทำนายว่า  คงไม่ช้านานตายกลายเป็นผี
คงจะต้องล้มตายวายชีวี              คนแบบนี้จิตใจไม่สบาย
    ๐ คงปรับตัวไม่ได้ในชีวิต       เพราะมันผิดผู้คนชนทั้งหลาย
คงจะต้องตรอมจิตชีวิตวาย        คงต้องตายอย่างช้าก็ห้าปี
    ๐ แพทย์เคยตรวจกายาจะผ่าตัด ก็ติดขันกายวิภาคยากเต็มที่
สายโลหิตเดียวกันในกายี         ผ่าตัดตายทันทีที่แยกกัน
    ๐ ครบสองปีครึ่งครันตามสัญญา นายคอฟฟินก็หาทำตามมั่น
กดขี่ใช้เช่นทาสอยู่ทุกวัน       ให้เมียมันสำทับบังคับบัญชา
    ๐ ถึงจะนอนป่วยอยู่ไม่ชูช่วย  ปล่อยให้ป่วยไม่พักจะรักษา
บังคับให้ขึ้นแสดงทุกแห่งมา   เหมือนแกล้งฆ่าให้ตายวายชีวัน
    ๐ ให้คนเขียนประวัติโดยชัดแจ้ง เหมือนจะแกล้งประจานให้เห็นขัน
ว่าลูกเจ๊กแม่ไทยยากไร้ครัน     ครอบครัวมันเบ็ดเสร็จสิบเอ็ดคน
    ๐ เจ็กกิมเฮ็งเตี่ยจีนต้องสิ้นใจ เพราะเกิดโรคห่าใหญ่ไม่เป็นผล
ต้องปล่อยลอยน้ำไปในสายชล ลูกเก้าคนตายห้าเพราะห่าลง
  ๐ ชื่อนายนาคนายเงินต้องเขินขัด นายทองถัดนางปรางและนางหงส์
ถึงนายอินนายจันนายมั่นนายคง นางนกลงเป็นแม่จนแย่ครัน
    ๐ขอค่าตัวเพิ่มมันก็สัญญา จะเก็บไว้ภายหน้าให้บากบั่น 
จะส่งให้แม่นกตลกยัน           แต่ว่ามันไม่เคยให้เลยละ
     ๐รอมาจนอายุลุยี่สิบเอ็ด   จึงเผด็จขอสิทธิอิสระ
ตามกฎหมายเมืองฝรั่งทางชะ จึงขอผละจากมันหมดสัญญา
    ๐ มันกลับมาต่อยถีบบีบบังคับ เหมือนดังกับจับมัดซึ่งสัตว์ป่า
ต้องกัดฟันสู้กันตาต่อตา               แยกออกมาเสรีไม่มีกลัว
    ๐ มันก็ตามรังควาญพานเอาผิด  ว่าเป็นสิทธิ์ของมันอยู่ถ้วนทั่ว
มันจ้างมาแสดงมีค่าตัว                   ต้องพันพัวนัวเนียเสียเงินทอง
    ๐ อินจันประกาศให้ใครใครทราบ ว่าเขามีเสรีภาพแล้วทั้งสอง
จ้างผู้จัดการเก่าเข้ารับรอง              ออกเที่ยวท่องทุกแห่งแสดงตัว
    ๐ จึงได้เงินได้ทองเป็นกองก้อน ท่องเที่ยวรอบประเทศของเขตทั่ว
ฝรั่งเศสอังกฤษไม่คิดกลัว              เงินไม่รั่วไหลทำบัญน้ำบัญชี
    ๐ จะใช้เงินแต่ละเหรียญเขียนไว้หมด ใช้ห้าเซ็นเป็นจดไว้เต็มที่
 มีทั้งผู้จัดการรู้งานดี                      ทำงานมีวางแผนทุกแดนไป
    ๐ จึงมั่ีนมีเงินทองเป็นกองก้อน  มีทุนรอนซี้อที่มาทำไร่
สร้างบ้านเรือนเหมือนฝรั่งมั่งมีไป   จนใครใครนับถือเลื่องลือชา
    ๐คิดจะใคร่มีเมียกันเสียเถิด       เสียแรงเกิดเป็นชายในใต้หล้า
ไม่เสียทีที่เกิดกำเนิดมา                มีบุตราสืบพงศ์วงศ์ตระกูล
    ๐ แต่เกิดกายมาติดผิดมนุษย์   ไม่สิ้นสุดอุปสรรคไม่สิ้นสูญ
  ใครจะแต่งกับเราเขาอาดูร         ต้องหารคูณนอนเคียงบนเตียงเต็ม 
   ๐ แต่ไม่ยอมอับจนเป็นคนกล้า  ใจเด็ดเดี่ยวเที่ยวมาทั่วฟ้าเขียว
จึงลงแรงแสวงหาพาลดเลี้ยว       ค่อยค่อยเกี้ยวสาวที่มีน้ำใจ
    ๐ได้พบสาวโซเฟียไม่เสียเที่ยว ฉลาดเฉลียวรุ่นราวสาวสมัย
พบอินจันพันผูกถูกฤทัย               หมั่นมาไปเยี่ยมเยียนวนเวียนมา
    ๐ เธอนึกรักอินจันฝันสวาท      ถึงขนาดเขียนกระวีศรีภาษา
"ฉันหลงรักเธอนักปักอุรา            ประหนึ่งว่าเป็นชายมีกายเดียว
    ๐ฉันหลงรักคุณอินถวิลฝัน      ฉันหลงรักคุณจันกระสันเสียว
ฉันอยากอยู่คู่รักเธอนักเชียว      อยากกอดเกี้ยวประคองทั้งสองคน"
    ๐ อินจันก็สมัครรักโซเฟีย      อยากได้เสียคู่สองสนองผล
แต่กฎหมายเมริกามาผจญ        หญิงหนึ่งคนผัวสองไม่ต้องธรรม
    ๐หญิงใดมีผัวสองจึงต้องห้าม มีผิดตามกฎหมายทุกเช้าค่ำ
ต้องติดคุกถูกปรับยับระยำ        จึงต้องจำเลิกร้างเหินห่างกัน
    ๐ โซเฟียไปแต่งงานสำราญจิต กับพ่อค้าพานิชสำคัญนั่น
ต้องว้าเหว่หวั่นถวิลแต่อินจัน     ยังใฝ่ฝันซาบซึ้งคะนึงใน
 ๐ ด้วยความรักแสนหวานสงสารสาว หนังสือพิมพ์เกรียวกราวลงข่าว
                                                           ใหญ่
จึงทำให้ผู้คนมาสนใจ               พากันไปดูหน้าคราแสดง
    ๐ ไปถึงกรุงลอนดอนนครใหญ่ อินจันได้แสดงกันอย่างขันแข็ง
ถึงเจ็ดเดือนเพื่อนตั้งอยู่กลางแปลง คนมีแรงมาชมกันสมใจ
    ๐ มีบาทหลวงชราเข้ามาเยี่ยม ตามธรรมเนียมศาสนาจะหาไหน 
ตั้งคำถามอินจันขึ้นทันใด           "เธอตายไปอยู่ไหนจงบอกมา"
    ๐ นายจันตอบทันทีมือชี้นั่น     "ขึ้นสวรรค์" แล้วก็หัวร่อร่า
บาทหลวงอึ้งตึงหน้าพึ่งมาเจอ    ไอ้สองเกลอกล้าหาญฉาดฉานจัง  ๐ ๐นายแพทย์กรุงลอนดอนกระฉ่อนข่าว รู้เรื่องราวชาวสยามในความ
                                                             หลัง
ว่าตัวติดชิดกันสนั่นดัง                จึงมานั่งจ้องเนตรสังเกตุเอ็น
    ๐ขอเข้ามาตรวจเอ็นให้เห็นแจ้ง บนเวทีที่แสดงให้คนเห็น
อินจันว่าอย่าแตะข้องแวะเว้น      ดูแต่ตาอย่าเล่นมาจับกู
    ๐ นายแพทย์ร้องตะโกนคนทั้งหลาย ว่าน่าอายหลอกต้มพวกผมอยู่
อินจันชกหมอกระเด็นคนเห็นกรู    ทุกคนผู้รุมตีนนายอินจัน
   ๐ ตำรวจเข้ามาห้ามไม่ขามเข็ด  เสียงคนเอ็ดตะโรคนโห่ลั่น
ผู้คนเข้าพันตูอยู่พันละวัน              อินจันน้ันหลบหลีกคอยปลีกตัว
    ๐ ถูกตำรวจจับตัวแล้วปรับไหม  สามร้อยเหรียญต้องให้มันทูนหัว
ค่าตุลาการด้วยซวยน่ากลัว            ค่อยยังชั่วเจ็บน้อยไม่ค่อยแรง
   ๐ ที่ฟิลาเดเฟียเกือบเสียท่า       คนเข้ามาจับมือเข้ายื้อแย่ง
จันจึงชกสะกัดเหวี่ยงวัดแว้ง          นอนแอ้งแม้งกับพื้นลุกยืนงง
    ๐ เรียกตำรวจมาจับให้ปรับไหม ศาลสั่งขังคุกไว้ตามประสงค์
อินว่าไม่ได้ชกไม่ตกลง                  ตุลาการก็งงสั่งปล่อยไป
    ๐ เพราะถ้าขังคุกจันวันนั้นแล้ว   คงไม่แคล้วเอาอินเข้าไปใส่
แต่อินไม่ได้ชกตกลงใจ                  จึงปล่อยให้สองคนไปพ้นคุก
    ๐ อินจันขึ้นรถไฟออกไปเที่ยว    ตั๋วใบเดียวไม่น่าจะขัดข้อง
นายตรวจไล่ลงดินนายอินมอง        ผมจะฟ้องรถไฟให้น่าดู
    ๐ นายตรวจลากนายอินลงดินไป นายจันไต่บรรไดลงไปคู่
นายตรวจร้องตะลึงเพราะพึ่งรู้         ให้นายอินจันอยู่บนรถไฟ
    ๐ นายฮาริสผู้จัดการของจันอิน   มีทรัพย์สินพอการแต่งงานได้
จึงเชิญแขกเชิญเหรื่อมาเหลือใจ    ให้มาในงานวิวาห์ในราตรี
    ๐ สาวสังคมพี่น้องกันสองสาว      เธอเป็นชาวไร่เขตเข้าเศรษฐี
พันเอเคอร์เศษไร่ใหญ่ยาวรี           ทั้งสองศรีมางานการวิวาห์
    ๐ ได้รู้จักมักคุ้นกับคุณจัน           มีสัมพันธ์คุณอินจนออกหน้า
ฮาดิเลตวัยสิบเจ็ดเป็นน้องยา         สาวซาร่าห์ย่างเข้าสิบเก้าปี
    ๐ นายอินว่าผมปักใจรักคุณ        แต่ว่าบุญน้อยหนอไม่พอที่
นายจันว่าการวิวาห์คงไม่มี             เพราะเราพี่น้องติดร่างชิดกัน
    ๐ นายจันปรารถนาจะแต่งงาน   ก่อนวายปราณเป็นศพไปสวรรค์
ฮาติเลตว่าฉันสงสารครัน               แต่ใครนั่นจะกล้าวิวาห์สอง
    ๐ นายอินว่าถ้าพี่มีวาสนา           จะขอคว้าซาร่าห์เป็นคู่สอง
นายจันว่าถ้าได้สมใจปอง              จะประคองอาติเลตพิเศษสตรี
    ๐ เลือดซาร่าห์อาดิเลตพิเศษสาว เป็นเชื้อชาวฮอลันดาสง่าศรี
ผสมเลือดไอริชอังกฤษมึ              มาอยู่ที่มะริกาในครานั้น
     ๐ วันหนึ่งคนทั้งสี่ก็มีโชค         นั่งรถโยกเข้าไปในเมืองนั่น
พวกชาวบ้านลือชานินทากัน        พิโรธลั่นว่าไม่มั่วตัวกาลี
    ๐ เอาก้อนหินไปปาบ้านยาเตส  บ้านบิดามาตุเรศของสองศรี
ตั้งแต่วันนั้นมาสองนารี                ถูกกักที่บ้านขังไว้ข้างใน
    ๐ เสียงนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไมชอกช้ำคล้ายคล้ายสายน้ำไหล
เหมือนถูกเข็มมาเย็บให้เจ็บใจ     ว่านิสัยวิตถารต้องการดัง
    ๐ เห็นฝาแฝดมีชื่อออกลือลั่น  จึงกระสันใจหวังจะดังมั่ง
บ้างก็ว่าวิตถารสงสารจัง              อยากจะนั่งสมสู่นั่งดูกัน
    ๐ อินจันตัดสินใจจะตายเป็น    จะตัดเอ็นมัดคู่กันอยู่นั่น
ถึงจะตายไปข้างก็ช่างมัน            เพราะหมายมั่นวิวาห์บูชารัก
    ๐ จึงนัดหมอผ่าตัดไม่ขัดข้อง แต่เป็นของเสี่ยงชีวิตคิดให้หนัก
อินจันยอมวายชีวาไม่ช้าชัก        สุดแต่กรรมนำจักให้เป็นไป
    ๐ เมื่อถึงโรงพยาบาลทำการผ่า แพทย์ก็มาตรวจตราอีกครั้งใหม่
นัดผ่าตัดวันรุ่งพรุ่งนี้ไซร้            ให้คนไข้เตรียมใจไว้ให้ดี
    ๐ อาดิเลตซาร่าห์โผล่มาถึง  ร้องไห้อึงน้ำตานองทั้งสองศรี
เข้าคัดค้านห้ามกันเสียทันที      กลัวชีวิตสองชายจะตายพลัน
    ๐ อินจันว่ายอมตายถวายให้  เพราะรักใคร่จริงแท้แม่จอมขวัญ
อาดิเลตร้องว่าอย่าอินจัน          จงนัดวันวิวาห์มาโดยไว
    ๐ ถึงจะตัวติดกันฉันไม่ว่า      จะวิวาห์ยอมตัวหากลัวไม่
เราทั้งสี่มีสุขไม่ทุกข์ใจ             อย่าเสี่ยงภัยให้พรากไปจากกัน 
    ๐ อินจันจึงยอมแพ้แก่สองศรี แล้วนัดหนีจดทะเบียนกับจอมขวัญ 
วันที่สิบเมษาวันสำคัญ              พุทธศกสองพันสามร้อยปี 
    ๐ กับมีเศษแปดสิบหกตกพรรษา ที่คาโรโล่น่าสง่าศรี
เสียหนึ่งพันดอลลารืประเพณี  หลักฐานมีปรากฎเขาจดไว้ 
    ๐ มีลูกสาวลูกชายมากมายนั่น ยี่สิบเอ็ดคนนั้นจำไม่ไหว
แต่งงานสี่อาทิตย์ช่างติดไว       อาดิเลตครรภ์ใหญ่คลอดธิดา
    ๐ สิบหกกุมภาพันธ์สำคัญสุด เธอคลอดบุตรสาวงามอร่ามหน้า
โจเซฟฟพินนามตั้งตามตำรา    บาทหลวงมาตั้งให้มิได้นาน
    ๐ สามสิบเอ็ดมีนาต่อมานั้น   ซาร่าห์นั้นคลอดบุตรสุดสงสาร
ชื่อจูเลียแอนนามตามโบราณ      ศาสนาคริสต์ขานเรียกธิดา           
                                         โปรดติดตามตอนต่อไป
          

    


วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่อง อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๑


นิทานโบราณกวีนิพนธ์ 

เรื่อง อินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๑
    ๐  รัชกา่ลที่สองมีของประหลาด    ที่เมืองราชินิกุลประยูรหงส์
   เมืองกำเนิดราชาสง่าวงศ์                กษัตริย์ที่สองครองราไชย 
     ๐ ยี่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี           เมื่อศกปีสองสามห้าสี่สมัย
พระพุทธเลิศหล้าหน้าทองขึ้นครองไทย ก็นับได้สองพรรษาในคราน้ัน 
   ๐ นางนกเมียกิมเฮ็งเก่งกว่าเพื่อน  ตั้งบ้านเรือนริมลำแม่น้ำนั่น 
ชื่อแม่กลองลำน้ำอันสำคัญ              ปากน้ำนั้นไกลสุดสมุทรสงคราม
   ๐ อยู่ตำบลแหลมใหญ่สมัยก่อน    ประชากรผู้คนไม่ล้นหลาม 
คนไทยทั้งประเทศทั่วเขตคาม         สำรวจยามนั้นประมาณห้าล้านคน
   ๐ ยังมีเจ๊กกิมเฮงคนเก่งกล้า          ลงสำเภาเข้ามาสมัยต้น
มาแต่ตัวล่อนแก่นยังแสนจน             มาได้คนไทยนั้นเป็นภรรยา
   ๐ นางนกเมียคนไทยมิใช่ย่อย       มีลูกบ่อยทุกปีดีนักหนา 
รวมเบ็ดเสร็จเก้าคนชนกันมา            รวมบิดามารดาสิบเอ็ดคน
   ๐ แต่ลูกชายสุดท้ายร้ายนักหนา    มีตัวติดชิดมาตั้งแต่ต้น
มีเอ็นยึดสีข้างมันช่างทน                  อยู่รอดพ้นโรคร้ายไม่ตายไป
    ๐ แม่นกตั้งชื่อนามตามประสา  เหมือนพฤกษาหน้าบ้านกิ่งก้านใหญ
ชื่ออินจันเหมือนผลของต้นไม้          ดูไสวเต็มต้นในหนนั้น
    ๐ ที่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี           ฝาแฝดนี้ตกฟากออกมานั่น
ศกสองสามห้าสี่ปีสำคัญ                   เตี่ยจำมั่นแม่นกแกตกใจ
   ๐ จะนั่งไหนนอนไหนต้องไปคู่       จะกินอยู่เยี่ยวขี้ต้องชิดใกล้
จะเล่นน้ำปล้ำปลาไปหาใคร              ก็ต้องไปเคียงคู่อยู่ด้วยกัน
   ๐ ปีสองสี่หกสองต้องอนาถ      เพราะโรคห่ามาระบาดน่าหวาดหวั่น
คนล้มตายไม่น้อยนับร้อยพัน        ครอบครัวแม่นกนั้นมีเคราะห์กรรม
   ๐ เจ๊กเฮงลูกหญิงชายต้องตายจาก เพราะโรคห่ามาพรากทุกเช้าค่ำ
ช่างตายได้ตายดีผีมาซ้ำ                 ปล่อยลอยน้ำอุทกไปหกคน 
   ๐ เหลือลูกอีกสี่คนจึงจนยาก        คนอดอยากปากแห้งทุกแห่งหน
แม่ลูกนกสี่คนจึงยากจน                  ต้องจำทนกินดิ้นรนไป
   ๐ ศกสองสี่เจ็ดหกไม่เสร็จเศร้า    ข่าวพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่
สวรรคตหมดบุญสิ้นสูญไป              พวกคนไทยโกนหัวทั่วแผ่นดิน
   ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ ครองสมบัติแทนบิดาน่าถวิล
ผูู้คนค่อยเฟื่องฟูการอยู่กิน             เพราะพระองค์ทรงศีลเป็นสำคัญ
   ๐ พระเป็นพระผู้โพธิสัตว์มาตรัสรู้ เกิดมากู้บารมีชาตินี้นั่น
ทรงสร้างวัดวาฝากไว้มากครัน        บางช้างน้ันสร้างวัดด้วยศรัทธา
   ๐ ทรงทราบข่าวอินจันสำคัญนัก จึงใคร่จักทอดเนตรสังเกตหน้า
จึงจัดเรือสุวรรณเรือกัญญา            เรือหลังคาแดดจ้านั้นมารับ
   ๐ นางนกจึงมอบหมายลูกชายคู่ เข้าไปสู่วังเจ้าเขามาจับ
ว่าคลอดบุตรผิดเพศเหตุบังคับ      จึงสั่งกับลูกชายว่าร้ายดี
   ๐ แม่ไม่มีอะไรจะให้เจ้า              จงฉีกเอาผ้านุ่งของแม่นี่
เป็นประเจียดกันภัยสิ่งไรมี             จึงนึกหน้าแม่นี้อยู่ในใจ
   ๐ อินจันรับเข้าวังในครั้งโน้น       ยังไม่โกนเปียน้อยที่ห้อยไหล่
อายุย่างสิบสามยังทรามวัย            มีบุญได้เข้าเฝ้าเจ้าชีวิต
   ๐ พวกเจ้านายขุนนางต่างเซ็งแซ่ เข้าเพ่งจ้องมองแลเข้าสนิท
สาวสวรรค์กำนัลในเข้าใกล้ชิด       พระนั่งเกล้าเจ้าพิศพอพระทัย
   ๐ โปรดประทานของขวัญอันมีค่า มีเสื้อผ้าข้าวของมากองให้
ทั้งเงินทองของกินและสินใช้          แล้วจึงได้กลับมาหามารดร 
   ๐ มีเงินซื้อเป็ดเลี้ยงส่งเสียงก๊าบ  จึงได้ลาภจากไข่ไม่หยุดหย่อน
เลี้ยงเป็ดไข่ขายเขาชาวนคร           มีทุนรอนมั่งคั่งขึ้นตั้งตัว
   ๐ มีเป็ดดีสีขาบให้ลาภมาก          มันผิดจากเป็ดล้วนอยู่ถ้วนทั่ว
มันฉลาดเหลือใจขึ้นไต่รั้ว               มิใช่ชั่วไต่ลวดอวดทุกวัน
   ๐ มันไต่ลวดเส้นเดียวน่าเสียวไส้ มันขึ้นไต่เล่นกลเช่นคนนั่น
เศรษฐีใหญ่มาอ้อนวอนทุกวัน        ขอซื้อมันไปเลี้ยงเพียงเจ็ดคืน
   ๐ เป็ดสีขาบก็ตายวายชีวิต          เพราะมันคิดถึงเจ้าของต้องข่มขืน
มันไม่กินข้าวน้ำไม่กล้ำกลืน           มันนิ่งยืนตายเสร็จในเจ็ดวัน
   ๐ แม่นกบอกว่าเตี่ยเขาเสียใจ     มาเกิดใหม่ให้ลาภสีขาบนั่น 
เมื่อต้องห่างไกลลูกที่ผูกพัน          มันจึงกลั้นใจตายใจหายครัน
   ๐ ปีสองสามเจ็ดสองก็หมองเศร้า มีสำเภาขึ้นล่องแม่กลองนั่น 
มิสเตอร์ฮันเตอร์ตัวสำคัญ              ทั้งกัปตันคอลฟินได้ยินยล
   ๐ เข้ามาดูฝาแฝดเจ็ดแปดคร้ัง    เข้ามานั่งเรือนแม่นกถึงหกหน
ว่าขอซื้ออินจันลูกคนจน                ไปให้ชนชาวฝรั่งเขานั่งดู  
   ๐ มันให้สามพันดอลล์แต่ก่อนเก่า มีค่าเท่าเงินไทยไม่น้อยอยู่
แม่นกไม่ขายลูกดูถูกกู                  มันก็ทู้วิงวอนจนอ่อนใจ
   ๐ หนักหนักเข้าขอเช่าสองปีครึ่ง มันให้ถึงห้าร้อยหาน้อยไม่
เงินดอลลาร์ห้าร้อยจะว่าไป           เป็นเงินไทยร้อยชั่งมั่งคั่งนัก
   ๐ แม่นกไม่ยอมให้ไม่ไว้หน้า      พวกฝรั่งมังค่าไม่รู้จัก
นายคอฟฟินหายหน้าไม่ช้าชัก       มันก็มักมาใหม่ลูกไม้ดี
   ๐ มันไปกราบทูลเล่าเจ้าอยู่หัว    ว่าขอตัวอินจันทั้งน้องพี่
ไปเข้าเฝ้าเจ้าญวนชวนไมตรี         ให้เป็นที่รักกันสัมพันธมิตร
   ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าเห็นเป็นประโยชน์ อยากจะโปรดญวนไว้ให้สนิท
จึงประทานทูตไทยไปใกล้ชิด       ประกาศิตอินจันให้มันเอา
   ๐ เจ้าฝรั่งมังค่าปัญญามาก        มันก็บากบั่นต่อมาขอเข้า
ถ้าแม่นกไม่ให้ก็ใจเบา                  เกรงพระเจ้าชีวิตผิดพระทัย
   ๐ อินจันว่าแม่ให้เขาไปเถิด     เดี๋ยวจะเกิดความเมืองเป็นเรื่องใหญ่
เพียงสามเดิอนจะกลับมาฉับไว     แม่อย่าได้ห่วงหาลูกยาเลย
   ๐ แม่นกนึกใจอ่อนลูกอ้อนออด  ไม่ทิ้งทอดแม่ไปไหนเฉยเฉย
ลูกก็เต็มใจไปได้ภิเปรย                 ลูกไม่เคยลืมคุณของมารดา 
   ๐ จึงมอบลูกให้ไปร้องไห้สั่ง       ให้ฝรั่งปกปักษ์ช่วยรักษา
มันให้เงินห้าร้อยเคลื่อนคล้อยลา   ว่าจะพาเที่ยวเฟื่องถึงเมืองญวน
   ๐ ปีสองสามเจ็ดศูนย์พูนสวัสดิ์    จึงต้องตัดใจปลิดจิตกำสรวล
จำต้องไกลจากอกแม่นกนวล         ต้องคร่ำครวญจากลำแม่น้ำกลอง
   ๐ เข้าบางกอกออกลำแม่น้ำกว้า ต้องเดินทางเคลื่อนคล้อยนั่งลอย
ล่อง
    ถึงแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำตานอง     สำเภาทองลำใหญ่ใช้ใบกาง
   ๐ กลาสีไม่น้อยสักร้อยกว่า         มีสินค้ามากยิ่งสิ่งต่างต่าง
    ทั้งข้าวสารน้ำตาลและงาช้าง   ไปค้าทางเมืองญวนจวนเวลา
   ๐ เรือออกจากเจ้าพระยาหันหน้าเร่ ออกทะเลคลื่นลมระดมกล้า
ต้องเมาคลื่นขื่นขมต้องดมยา          กินข้าวปลาไม่ได้ไปหลายวัน
   ๐ เรือสำเภาเข้าทอดจอดตามท่า ซื้อสินค้าเครื่องเทศตามเขตขัณฑ์
ขายข้าวสารน้ำตาลของไทยนั้น      ฝรั่งมันซื้อของตามรายทาง
   ๐ สี่สิบสองวันเศษถึงเขตขัณฑ์    กรุงไซ่ง่อนก่อนน้ันอยู่ไกลห่าง
เจ้าเมืองญวนจำนงให้ส่งช้าง          สิบสี่เชือกต่างรับทูตไทย
   ๐ ราชทูตของไทยที่ไปด้วย         ก็ได้ช่วยอินจันประกันให้
ทางเมืองญวนยำเยงคิดเกรงใจ       ส่งช้างใหญ่รับสิ้นทั้งอินจัน 
   ๐ เขาชักรอกอินจันขึ้นชั้นช่อ        ให้นั่งคอขึ้นนั่งหลังช้างนั่น
ฝูงชนก็สารพาเข้ามาพลัน               เฮโลกันแห่ห้อมเข้าล้อมดู
   ๐ ทหารญวนใช้ไม้เข้าไล่ตี           ฝูงชนหนีแตกซ่านเหมือนหมาหมู
ทหารร้อยนายล้อมเข้าพร้อมพรู      ป้องกันหมู่คนบ้าเข้ามารุม 
    ๐ พักอยู่เมืองไซ่ง่อนกระฉ่อนเรื่อง พวกชาวเมืองมุงหน้ามารุมตุ้ม
ต้องส่งกองทหารม้าเข้ามาคุม        อินจันหนุ่มเที่ยวเฟื่องในเมืองญวน
   ๐ เขาต้อนรับทูตไทยอย่างใหญ่โต มีเล่นโอ่อวดดีอย่างถึ่ถ้วน
เอาเสือมาสู้ช้างกลางกระบวน        ว่าญวนล้วนกลัวเสือเหนือกว่าไทย
   ๐ ช้างมันกลัวเสือกัดสะบัดไม่หลุด มันจึงหยุดไม่กล้าเข้ามาใกล้
ควาญก็ตีช้างซบสลบไป               เอาช้างใหม่ตัวที่สองลองกำลัง
   ๐ ช้างมันตกมันบ้าคว้าไมอยู่      ควาญช้างผู้อาภัพถูกจับนั่ง
เพชรฌาตตัดคอมรณัง                  นายอินจันหันหลังไม่อยากดู
 ๐ เขาเอาช้างเชือกใหม่ใส่พะเนียด แล้วแล่นเฉียดเสือสางหมดทางสู้
เพราะเขาผูกคอไว้ไม่ให้รู้               ช้างจับชูเชือกแว้งขึ้นแกว่งไกว
   ๐ เชือกที่รัดคอเสือไว้เหลือหลาย จนเสือตายตกดินดิ้นไม่ไหว
อันคนญวนทั่วถ้วนน่ากลัวใจ           เขาดูได้ดูดีไม่มีธรรม
   ๐ เขาจัดให้กองทหารชาญสนาม ทำสงครามกับช้างช่างน่าขำ
น่าสมเพศเวทนาไม่น่าทำ              อวดว่าช่ำชองยุทธ์สุดประมาณ
   ๐ เขาให้กองพลทหารชำนาญรบ ไปนั่งหลบไม้ในกองไพรสาณฑ์
แล้วปล่อยโขลงช้างมาไม่ช้านาน   ให้ทหารจุดไฟลุกไหม้แดง 
   ๐ ช้างก็แตกตื่นไฟไหม้โชติช่วง  ทหารหลวงมีชื่อฝีมือแสยง 
ยิงธนูถูกช้างอยู่กลางแปลง            ช้างยืนแข็งอยู่กับที่ไม่หนีไป
   ๐ เพราะว่าถูกควาญช้างมันคว้าขอ เข้าสับหัวช้างล่อทนไม่ไหว 
ฝ่ายทหารตัวดีก็มีชัย                      อินจันได้ชมดูห่ดหูนัก 
   ๐ ยี่สิบวันผ่านไปมิใช่ย่อย            เฝ้าแต่คอยพระองค์ผู้ทรงศักดิ์
คือพระเจ้ากรุงญวนจะชวนชัก         คณะทูตไทยไปคำนับ
   ๐ นายอินจันไม่ได้ไปไหนอีก       ต้องหลบหลีกผู้คนที่สนสับ
เข้ามาห้อมล้อมดูดูยุบยับ                เหลือจะรับประทานพลุกพล่านไป
   ๐แล้วพระเจ้ากรุงเว้มเหศร           ก็จัดต้อนรับราชทูตใหญ่
ส่งเรือหลวงมารับโดยฉับไว            ให้ขึ้นไปเฝ้าเฟื่องที่เมืองเว้
    ๐ ราชทูตไทยเราเข้าเฝ้าแหน     หน้าพระแท่นเจ้านั่นไม่หันเห
เจ้าญวนทักถามกันอยู่นานเน          แล้วสรวลเสผินผันดูอินจัน
    ๐ ตรัสว่าเมืองเรามีอยู่ถี่ถ้วน        ฝาแฝดล้วนมีอยู่หลายคู่นั่น
แต่เราไม่ใคร่เห็นเป็นสำคัญ            เพราะของมันธรรมดาฝาแฝดไทย
     ๐ ทางเมืองญวนถือว่าคนอาภัพ  เป็นสิ่งอัปมงคลชนชั้นไพร่
เราไม่เลี้ยงคนแฝดแปดเปื้อนไป     เราขับไล่ให้ออกไปนอกเมือง
     ๐ ทรงโอภาปราศรัยพระทัยซื่อ  น่านับถือเจ้าเชื้ออยู่เหลือหลาย 
ยังประทานของฝากให้มากมาย      ไม่อับอายเกิดตนเป็นคนไทย
    ๐มอบของขวัญบรรณาการฝากสารทูต ให้ช่วยพูดจาเล่าเจ้ากรุงศรี
ว่าญวนรับทูตไทยด้วยไมตรี            เจ้ากรุงไทยได้มีเมตตาเรา 
    ๐ องค์พระพุทธยอดฟ้ามหาราช ทรงช่วยชาติญวนร้อนมาก่อนเก่า
 องเชียงชุนเชียงสือนับถือเอา         พระยอดฟ้าเป็นเจ้าบุญคุณมา 
     ๐ สิ้นสามวันท่านทูตเดินทางกลับ เรือญวนรับส่งให้ไปถึงท่า
กลับไซ่ง่อนจรเนื่องเมืองนานา        เข้าถึงเจ้าพระยามหานคร
     ๐ เข้าเฝ้าพระนั่งเกล้าเจ้าชีวิต    ทูตทูลกิจต่อองค์พระทรงศร
พระทรงพอพระทัยตรัสให้พร          ให้เงินทองกองก้อนเป็นรางวัล
    ๐ อินจันได้ลาภทานจากผ่านฟ้า  รีบกลับมาแม่กลองมอบของขวัญ  ให้แม่นกยกให้มากมายครัน            นายอินจันต้ังใจไปเมริกา 
     ๐มิสเตอร์ฮันเตอร์พาเพ้อฝัน      ให้อินจันอยากไปเมืองไกลกว่า
อยากเห็นบ้านเมืองไกลในโลกา     ที่ก้าวหน้ารุ่งเรืองกว่าเมืองไทย
     ๐ ส่วนกัปตันคอฟฟินขนสินค้า   คือปืนผามาขายถวายใหม่
พอดีเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ไกล      คิดขบถคตใหญ่ยกทัพมา
     ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าชีวิตจึงคิดปราบ ให้ราบคาบลงไปไม่ใหญ๋กล้า
ซื่้ออาวุธกัปตันไม่ทันช้า                 โปรดเมตตาคอฟฟินสินน้ำใจ
     ๐ มิสเตอร์ฮันเตอร์เมื่อเจอมิตร  จึงได้คิดตีสนิทเข้าชิดใกล้
 สองฝรั่งวางแผนคิดกาลไกล         ชวนกันไปแม่กลองรับรองกัน
     ๐ให้เงินแม่นกหน่อยให้ปล่อยบุตร ไม่ยื้อยุดห้ามหวงคอยถ่วงนั่น
แต่ไว้ใจใต้ลิ้นนายอินจัน                 เขาเชื่อมั่นกัปตันว่าใจดี 
    ๐ สามสิบเอ็ดมีนามหาโชค         อินจันต้องท่องโลกให้เต็มที
ออกจากแม่กลองนั้นไปทันที          แม่นกพี่น้องได้พร้อมใจกัน
    ๐ มองเห็นหน้าลูกชายใจหายคว่ำ เห็นหมองคล้ำรู้สึกนึกสังหรณ์
เห็นหน้าคร้ังสุดท้ายไม่ม้วยมรณ์    แม่จะต้องตายก่อนหรืออย่างไร
     ๐ จึงกอดลูกอินจันรำพันว่า       กลับให้แม่แลหน้าให้จงได้
ขอฟ้าดินจงโปรดคุ้มโทษภัย         กลับมาให้แม่เห็นก่อนเป็นตาย 
     ๐ นายอินจันอั้นอึ้งคิดถึงแม่      เฝ้าแต่แลแล้วเล่าเศร้าใจหาย
แต่ต้องทำองอาจว่าชาติชาย         ร้องไห้อายฝรั่งมันนั่งมอง 
    ๐ ขึ้นบนเรือสำเภามีเสาใบ            เป็นเรือใหญ่เหลือที่ไม่มีสองเรือ"ซาเค็มใหญ่เขื่องดูเรืองรอง แล่นออกท้องทะเลลึกเหลือตรึกตรา
     ๐ หันหน้ามองอ่าวไทยแล้วใจเศร้า แม่นกเฝ้าร้องไห้อาลัยหา
นับแต่วันนี้ไปมิได้มา                      ไม่เห็นหน้าแม่แล้วต้องแคล้วกัน 
    ๐ แต่นึกใหม่มิใช่จะไปลับ          เราต้องกลับมาแน่ไม่แปรผัน
สองปีครึ่งไม่นานนักหนาครัน         คงมีวันเห็นหน้ามารดาเรา
 ๐ แลเห็นนกนางนวลบินสวนทาง ใจอ้างว้างเลื่อนลอยแสน
                                                       หงอยเหงา
 นกนางนวลเหมือนแม่ไม่บางเบา   โอ้นกเจ้าลอยธารเหมือนมารดา
    ๐ เจ้านกน้อยลอยเร่ทะเลหลวง  เปรียบเหมือนดวงใจแม่ชะแง้หา
นกนางนวลเจ้าเอ๋ยจะเลยลา           บอกแม่ว่าลูกชายจะตายรัง 

โปรดติดตามตอนต่อไป