วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จรรยาผู้ดี ตอน จรรยานักทำงาน


  

จรรยานักทำงาน

     ๑. จงลงมือทำเดี๋ยวนี้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง อย่ารอไว้ทำภายหลัง อย่านึกว่ายังเหนื่อยนัก ยังหิวนัก ยังร้อนนัก ยังหนาวนัก เพราะว่าอาจจะไม่ได้ทำ อย่าลืมคำว่า "เวลาและวารี  บ่มิมีจะคอยใคร" โอกาสย่อมผ่านไปไม่มีวันย้อนกลับมาใหม่ ล่วงวันนี้ไปแล้ว ชีวิตเราก็ล่วงเลยไปอีกหนึ่งวัน ฉนั้น จงลงมือทำเดี๋ยวนี้ ไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่ จง Work now 

    ๒.จงทำงานหนัก ทำงานให้มาก ทำงานยาก อย่าหลีกเลี่ยงงาน เพราะงานหนักและงานยากงานลำบากนั้น  จะเป็นเครื่องมือฝึกฝนสมรรถภาพของเรา ทำให้เราเข็มแข็ง กล้าหาญ อดทน และเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงได้ คนที่เลี่ยงงานหนักไปทำงานเบาน้ัน เขาจะเป็นคนอ่อนแอและพ่ายแพ้อุปสรรคทั้งปวง คนสำคัญของโลก มหาเศรษฐีของโลก ล้วนแต่เป็นผู้ทำงานหนักทั้งสิ้น เพราะฉนั้น จง Work hard

    ๓. จงทำงานนอกเวลา ทำงานเกินเวลา ข้าราชการกำหนดทำงานเวลา ๘.๓๐น. - ๑๖.๓๐ น. แต่นักทำงานต้องทำงาน ๗.๐๐น - ๑๙.๐๐ น. ข้าราชการหยุดทำงานวันเสาร์-อาทิตย์ แต่นักทำงานที่แท้จริงต้องทำในเวลากลางคืนด้วย นักทำงานทำนอกเวลากันทุกคน  เพราะฉนั้นนักทำงานที่ดี ต้อง Work over time 

    ๔.จงทำงานเกินเงินเดือน จงทำงานเกินรายได้ จงทำงานโดยไม่คำนึงถึงรายได้ ไม่ใช่ว่าเงินเดือนน้อยจะต้องทำงานน้อย เงินเดือนมากจะต้องทำงานมาก เพราะงานที่ทำคือผลกำไรของชีวิต งานมักสร้างความชำนาญให้แก่เรา งานมันจะสร้างประสบการณ์ให้แก่เรา งานมันจะสร้างปัญญาให้แก่เรา  เพราะฉนั้นนักทำงานที่ดีต้องทำงานเกินเงินเดือน Work mor than wage

    ๕.จงทำงานเป็นทีม จงทำงานเป็นหมู่คณะ เพราะการทำงานไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ ไม่ว่างานส่วนตัวหรือส่วนรวม ไม่ว่างานเอกชนหรือราชการ งานบริษัท รัฐวิสาหกิจ ไม่มีใครทำงานคนเดียวสำเร็จ ต้องมีผู้ร่วมมือทำงานด้วยเสมอ นักทำงานที่ดีจะไม่ทำงานโดยโดดเดี่ยว จะไม่ทำงานเอาดีเอาเด่นเสียคนเดียว ต้อง Work by team work

    ๖.จงทำงานกับนิ้วทั้งห้า หมายความว่า การทำงานจะสมบรูณ์ต้องทำงานด้วยนิ้วทั้งห้าจึงเป็นมือที่สมบรูณ์ ต้องนึกว่าตนคือนิ้วหนึ่ง ต้องทำงานร่วมกับอีก๔ นิ้ว ตลอดเวลา ทุกนิ้่ว(เพื่อนร่วมงานทุกคน) มีความสำคัญเสมอกัน เพราะฉนั้นนักทำงานที่ดี ต้อง Work with four fingers

    ๗. จงทำงานเพื่องาน ทำงานเพื่อหน้าที่ ทำงานเพื่อการปฎิบัติธรรม ทำงานเพื่ออุทิศชีวิตต่องาน หมายความว่างานนั้นต้องทำเพื่อผดุงความเป็นธรรม ทำงานเพื่อประชาชน ทำงานเพื่ออุทิศตนแก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นวัตถุ หรือทรัพย์สิน ไม่ทำงานเพื่อชื่อเสียง เพื่อเกียรติยศ เพื่อเอาหน้าทั้งสิ้น  เปรียบเหมือนจิตรกรวาดรูป เหมือนช่างศิลป์แกะสลัก เหมือนนักกวีแต่งบทกวี เหมือนพระผู้บวชบำเพ็ญสมณธรรมไม่หวังผลอะไรเลย  มุ่งอุทิศตนเพื่องาน เพื่อการปฎิบัติธรรมเท่านั้น  การทำงานอย่างนี้จะได้ผลสูงสุด คือความสุขทั้งในโลกนี้และปรโลก เพราะฉนั้น นักทำงานที่ดีต้อง Work is worship

    ๘.จงทำงานด้วยใจรัก ทำงานด้วยใจสมัคร มีใจรักในงานนั้น ทำงานด้วยความสนุก มองเห็นงานเป็นเพื่อนชีวิต ทำให้ชีวิตไม่ซบเซา เพราะมีงานเป็นที่เพลิดเพลินได้ใช้สติปัญญา ใช้ความสามารถ ใช้พลังกายพลังใจทำงาน  เพราะฉนั้น นักทำงานที่ดีต้อง Work with love

   ๙.จงทำงานเหมือนวีรบุรษ จงเป็นวีรบุรษในการทำสงครามกับงานที่ขวางหน้า  คือทำงานให้ราบเรียบ  ไม่ยอมตกอยู่ใต้อิทธิพลใต้อำนาจใต้คำบงการใดใด จะทำให้งานยากเป็นงานง่าย งานใหญ่เป็นงานเล็ก เพราะฉนั้น จง Work like the Hero 

    ๑๐. จงทำงานด้วยหัวใจ  ทำงานด้วยชีวิตจิตใจ ทุ่มเทจิตใจลงไปในงานนั้น อุทิศสติปัญญาลงในงานนั้นเพื่อให้งานสำเร็จ ให้งานนั้นเรียบร้อย เป็นงานที่ดีสุด ผลงานน้ันจะอบอวลอยู่ด้วยกลิ่นไอ  เป็นพลังใจให้เจ้าของงาน  เพราะฉนั้น จง Work with heart 

    ๑๑.จงทำงานเหมือนดวงอาทิตย์ คือโคจรขึ้นจากขอบฟ้าในรุ่งอรุณ และโคจรขึ้นมาอยู่บนศรีษะตอนเที่ยงและโคจรลับฟ้าไปเมื่อเวลาสายัณห์ คือการทำงานที่ต้องสำรวจ ตรวจสอบ ทบทวน สอดส่องโดยสม่ำเสมอ เพราะฉนั้น จง Work as the sun

   ๑๒.จงทำงานเหมือนพลังน้ำไหล คือน้ำในแม่น้ำน้อยใหญ่ย่อมไหลไปตามแม่น้ำลำคลอง ทำความชุ่มชื่นให้แก่พืชพันธุ์ ย่อมกัดเซาะดินที่อ่อนให้พังไป ย่อมละลายสิ่งโสโครกให้สะอาดสะอ้าน ย่อมพัดพาเอาเศษไม้ใบหญ้าให้ลอยไป น้ำจะมีพลังชำระสิ่งสกปรกให้สะอาด  ชำระสิ่งที่แข็งกระด้างให้อ่อนโยน  เปรียบเหมือนดั่งนักทำงานต้องไม่ยอมพ่ายแพ้แก่อุปสรรคที่ขวางหน้า ต้องเดินหน้าไปเสมอ   เพราะฉนั้น จง Work like water run


วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรืองอินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๔


นิทานโบราณกวีนิพนธ์
เรื่องอินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๔

    ๐ ที่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี                 ศกสองสามห้าสี่ปัจจัยห้า*
วันกำเนิดจันอินถิ่นธารา                          อันเรียกว่าแม่กลองนองนที
    ๐ มีพ่อจีนแม่ไทยในประวัติ                คุณสมบัติล้วนอยู่ถ้วถี่
ฉลาด ขยัน อดทน เป็นคนดี                   ซื่อสัตย์ มีกตัญญูรู้คุณคน
    ๐ เสียสละ ภักดี มีวินัย                        มีนิสัยประหยัด ไม่ขัดสน
รับผิดชอบ หน้าที่ชีวิตตน                       มีเหตุผล เลื่อมใสในพระเจ้า
    ๐ คุณสมบัติสิบสองข้อโดยย่อนี้         ปรากฎมีอยู่ทั่วในตัวเขา
อยู่ในสายเลือดตั้งแต่ยังเยาว์                 จนตราบเท่าวันตายไม่หายไป
    ๐ ที่สิบหกมกราคมอุดมศรี                 ศกสองสี่หนึ่งเจ็ดเสร็จสมัย
เขาลาโลกดับดิ้นลงสิ้นใจ                      อายุได้หกสิบสามไม่ข้ามปี
    ๐ ฝากชื่อเสียงอินจันสนั่นหล้า           เขาเกิดมาตัวติดดูผิดที่
แต่ไม่ยอมแพ้ภัยในชีวี                           เขาเอาดีจนได้ในชีวิต
    ๐ ควรจะเป็นเยี่ยงอย่างแต่ปางก่อน   ควรจะเป็นเช่นสอนสุภาษิต
คุณสมบัติสิบสองข้อขอจงคิด               ติดอยู่ในโลหิตของคนเจ๊ก
    ๐ ข้าพเจ้าวิจัยนิสัยเขา                     อยากให้เรานิยมอบรมเด็ก
นิสัยนี้ฝังแต่ยังเล็ก                              จะเป็นเหล็กน้ำพี้อย่างดีครัน
    ๐ ซาร่ายาเดสตายวัยเจ็ดสิบ           จะขอหยิบมาแผ่แต่สั้นสั้น
เกิดสิบแปดธันวาคมเป็นสำคัญ            สองสามหกห้านั้นกำเนิดมา
    ๐ ยี่สิบเก้าเมษาก็ลาลับ                   ศกลำดับสองสี่สามสิบห้า
อยู่กินกับนายอินมานานช้า                  นับเวลาได้สามสิบเอ็ดปี
    ๐ อาติเลตยาเลสพิเศษสาว             มีอายุยืนยามเก้าสิบสี่
เกิดสิบเอ็ดตุลาต่อมาปี                        อ่อนกว่าพี่สาวศรีหนึ่งปีคูณ
    ๐ ยี่สิบเอ็ดพฤษภาก็ลาลับ              ศกลำดับสองสี่เศษหกศูนย์
เก้าสิบสี่ปีมาจึงอาดูร                           ต้องดับสูญไปเสียเมียนายจัน
    ๐ขอเคารพจบกลอนอักษรสาร        เล่านิทานนี้เป็นเช่นของขวัญ
เรื่องของฝาแฝดสยามนามสำคัญ       เป็นเรื่องจริงอัศจรรย์นิทานเอย

                                                      จบบริบูรณ์ 

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่องอินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๓

นิทานโบราณกวีนิพนธ์
เรื่อง อินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๓
    ๐ ฮันเตอร์อยู่เมืองไทยในยามนั้น    ได้เป็นชั้นเจ้าคุณจรูญศรี
พระนั่งเกล้าเจ้าตั้งให้อย่างดี        ได้เป็นที่โปรดเกล้าฯของเจ้านาย
    ๐ พระนั่งเกล้านั่นชั้นเจ้าสัว       มีเรือสำเภาเข้าไปค้าขาย
รวยมาก่อนเสวยราชย์ชั้นเจ้าชาย  มีเงินฝากมากมายในพระคลัง
    ๐ ใส่ถุงแดงเอาไว้มิใช่ย่อย       มีมากมายไม่น้อยหลายหมื่นชั่ง
ใช้สร้างวัดหลายโกฎิไม่หมดคลัง  รัชกาลชั้นหลังยังได้ใช้
    ๐ เมื่อฝรั่งเศสมาเข้าหาเรื่อง     ยึดเอาเมืองจันทบุรีเราไปได้
ส่งเรือรบลงมาเข้าในอ่าวไทย        จนถึงได้ยิงกันสนั่นกรุง
    ๐ ก็ได้เงินถุงแดงไปแบ่งห้าม    เข้าใช้หนี้สงครามหลายหมื่นถุง 
สิ้นพระนั่งเกล้าไทยอีกหลายคุ้ง    ไทยต้องยุ่งกับฝรั่งระวังตัว
    ๐ ฝ่ายนายอินนายจันสำคัญมาก  ตั้งรกรากเมืองฝรั่งจนฝังหัว
แปลงชาติเป็นมะริกันเข้าพันพัว      เป็นสุขชั่วลูกหลานมานานปี   
    ๐ มีที่ดินถิ่นฐานมีบ้านช่อง         มีเงินทองมากครันขั้นเศรษฐี
นายจันมีที่ดินทำกินดี                    สี่ร้อยยี่สิบห้าเอเคอร์ควร
    ๐ มีทาสสิบเอ็ดคนไม่จนยาก    มีหลายหลากสินทรัพย์นับไม่ถ้วน
มีลูกสิบเอ็ดคนครบจำนวน            อาคิเลตเนื้อนวลเป็นขวัญใจ
    ๐ นายอินมีที่ดินถิ่นสถาน          อยู่ประมาณสามร้อยเอเคอร์ได้
มีลูกสิบคนถ้วนจำนวนใน              ซ่าร่าห์ได้เคียงคู่อยู่ด้วยกัน
    ๐ ที่สิบหกมกราเวลาดึก            จันรู้สึกกระสับกระส่ายหัวใจสั่น
คอแห้งผากอยากน้ำเป็นสำคัญ     ปลุกอินนั้นให้ตื่นลุกขึ้นไป
    ๐ นั่งผิงไฟในห้องอินต้องฝืน    จึงชวนจันนั้นคืนไปนอนใหม่
ตีสี่บุตรนายจันจึงเข้าไป               พบพ่อจันสิ้นใจนอนหลับตา
    ๐นายอินตื่นขี้นมาถามหาพี่       ยังอยู่ดีหรือไรมือไขว่หา
วิลเลี่ยมบอกพ่อตายวายชีวา        นายอินว่าเช่นนั้นฉันก็ตาย
    ๐ เขาดึงจันมากอดตลอดร่าง   ร้องไห้พลางคิดไปก็ใจหาย
เขาเหงื่อท่วมตัวทั้งร่างกาย         หัวใจวายไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
    ๐ ที่สิบเจ็ดมกราเขาลาจาก      อินจันพรากโลกไปไม่ตายโหง
ถึงตายดีเขาก็เอาไปเข้าโลง        ต้องลาโรงละครใหญ่โลกไปลับ
    ๐ ยี่สิบห้าปีก่อนเขาจรจาก      แม่กลองพรากลับไปแล้วไม่กลับ
สามสิบหกถ้วนปีเขาลี้ลับ            ควรจะนับเป็นบุรษสุดสำคัญ
    ๐ เขาฝากชื่อไว้ให้ลือลั่น        "นายอินจัน ไซมิสทวิน" นั่น
ทำให้โลกรู้จักร้องทักกัน             นามอินจันโด่งดังครั้งกระโน้น
    ๐ฝรั่งว่าโลกหรือคือโรงละคร   แต่ไทยสอนคนเช่นเขาเล่นโขน
ล้วนเต้นวิ่งลิงโลดกระโดดโจน    เหมือนลิงโลนเหมือนยักษ์เพราะรัก
                                                    ชัง
    ๐ เมื่อชีพดับลับโลกก็โศกเศร้า ทิ้งชื่อไว้ให้เขาคนข้างหลัง
นั่งสรรเสริญเยินยอเหมือนอยู่ยัง   ให้เขานั่งนินทาเหมือนบ้ายอ
    ๐ ล้วนเวียนว่ายตายเกิดประเดิดประดัก  ให้เขารักเขาชังนั่งหัวร่อ
เรื่องนายอินนายจันนั้นก็พอ           จะเป็นข้อเตือนจิตสะกิดใจ
    ๐ เกิดมาในโลกนี้จะดีชั่ว            ก็เป็นตัวตนอยู่ครู่ใหญ่ใหญ่
แล้วก็ลาโลกดับล่วงลับไป             เหมือนกับไม่เคยเกิดกำเนิดมา
    ๐ตายไปเป็นอะไรก็ไม่รู้              แต่พระผู้มีพระภาคท่านตรัสว่า
คนเวียนว่ายตายเกิดทุกเวลา         เหมือนฝนฟ้าตกใหญ่น้ำไหลพรู
    ๐ อยู่ในห้วยในหนองในคลองบึง ไหลไปถึงในลำแม่น้ำอยู่
ไหลไปถึงพระสุมทรไกลสุดรู้         เป็นไอสู่ฟากฟ้าทั่วสากล
    ๐ เป็นเมฆหมอกเป็นน้ำค้างกลางยอดหญ้า เป็นหิมะตกมาเป็นน้ำ
                                                                         ฝน 
ไ่ม่เคยจากภาพพื้นภูวดล                 ไหลเวียนวนเช่นนี้ล้านปีมา
 ๐ น้ำระเหยแห้งหายกลายเป็นอื่น แล้วกลับคืนไม่แห้งจากแหล่งหล้า
ถ้าหายไปวันละหยดหมดโลกา        แต่น้ำฟ้าไม่เคยหมดเลยไป
   ๐ เหมือนชีวิตผู้คนเวียนวนอยู่       เกิดแล้วตายไม่รู้ไปอยู่ไหน
แต่พระสัพพัญญูล่วงรู้ไกล      เพราะทรงได้ทิพยเนตรเห็นเหตุการณ์ 
    ๐ ถ้าพระสัพพัญญูยังอยู่ไซร้        คงชี้ให้เราแจ้งแหล่งสถาน
ที่อินจันไปเกิดกำเนิดนาน                อยู่ในบ้านเมืองใดในโลกา 
๐พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าสัตว์มนุษย์ ตายแล้วผุดเปลี่ยนหน้าขึ้นมา
                                                           ใหม่
เพราะปัจจัยปรุงแต่งจนแจ้งใจ           แยกออกได้ใจอย่างกับร่างกาย
   ๐หนึ่ง"กัมมัง เขตตัง"กรรมตั้งมั่น   เป็นเขตขัณฑ์นาไร่สวนทั้งหลาย
สอง"วิญญานัง พีชัง"ดุจดังคล้าย  วิญญาณย่อมละม้ายคล้ายพืชพันธุ์
    ๐สาม"ตัณหัง สิเนโห"คือตัณหา  เป็นเสน่ห์อยากเกิดมาในโลกนั่น
เกิดเป็นคนเป็นสัตว์สารพัน              ชีวิตนั้นอุบัติด้วยปัจจัย
   ๐ จนเราลุอรหัตตัดกิเลส              จึงสิ้เหตุเกิดกายาขึ้นมาใหญ๋
ใครว่า"ตายสูญ"พ้นอย่าสนใจ         ถึงจะใหญ่ยศถาชั้นอาจารย์
    ๐เป็นมิจฉาทิฎฐิดำริผิด               จะจมมิดนรกสิ้นอวสาน
ดำริผิดบาปหนาคนสามานย์            ห้ามสวรรค์นิพพานนามนานมา

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่อง อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๒


นิทานโบราณกวีนิพนธ์

อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๒


    ๐ วันที่หนึ่งเมษาต้องลาจาก    จะขอฝากฟ้าดินถวิลหวัง
ให้แม่จงอยู่ดีในชีวัง                     จนกระทั่งกลับมาเห็นหน้ากัน
    ๐เรือซาเล็มแล่นคว้างกลางสมุทร ก็มาหยุดเทียบท่าถึงเขตขัณฑ์
สิงค์โปร์เมืองท่าค้าสำคัญ           แล้วแล่นลั่นไปท่าปัตตาเวีย
    ๐ แวะจอดทุกเมืองท่าเข้าค้าขาย เข้าขนถ่ายสินค้าไม่ยอมเสีย
แล้วจึงออกเรือแล่นไปแอนเจีย    ข้ามสมุทรอินเดียมุ่งหน้าไป
    ๐ แวะเกาะเมริตัสแล่นตัดเข้า   เมืองเคพทาวน์ที่แอฟริกาใต้
ถึงเกาะเซนต์เฮเลน่าชลาลัย       ข้ามไปในมหาสมุทรแอตแลนติด
    ๐ ผ่านเกาะแอสเซพชั่นคั่นสมุทร ภูเขาไฟไม่ผุดขึ้นมาอีก
คลื่นลมพัดเรือนั้นสั่นระริก            แทบจะพลิกคว่ำไปในทะเล
    ๐ เรือแวะจอดที่ท่าเบอร์มิวด้า  เป็นเมืองท่าใหญครันไม่หันเห
นายฮันเตอร์ลมชมสมคะเน          แยกเรือเร่ไปนครลอนดอนพลัน
    ๐ ระหว่างทางอินจันน้้นสดชื่น  ไม่เมาคลื่นลมชวนกันสรวลสรรค์
เขาฝึกพูดอังกฤษฟุดฟิดกัน         ได้ครูชั้นกลาสีอย่างดีจัง 
    ๐ เขาฝึกเล่นเช็คเกอร์ไม่เก้อเขิน แต่เก่งเกินครูได้ในภายหลัง
เขาดื่มเหล้าดวดกับพวกจับกัง     แต่กำลังเขาดีไม่มีเมา
    ๐ เขาไต่เสากระโดงได้สูงไกลลิบ ฝรั่งขยิบตาจ้องมองดูเสา
เขาไต่คู่ไม่เชื่อก็เหลือเดา          ไม่รู้เขาไต่ได้อย่างไรกัน
    ๐ เขากระโดดโลดเต้นเป็นจังหวะ ไม่ปะทะไม่ลังเลไม่เหหัน
เจออะไรขวางไว้ก็ไหวทัน           คราวหนึ่งนั้นวิ่งชนกันบนเรือ
    ๐ ไปพบช่องฝาพื้นเปิดขึ้นไว้  สำหรับไต่ลงบันไดช่างเหลือเชื่อ 
เขาโดดแผล็วข้ามฟลุ๊กเหมือนลูกเนื้อ โดดข้ามเชื้อกองไฟอันใหญ่                                                                   โพลง
    ๐ ที่สิบหกสิงหาเวลาเช้า        เรือก็เข้าเทียบท่าท้องฟ้าโปร่ง
ถึงบอสตันเวลาเช้าห้าโมง         เรือผูกโยงเข้าสู่อู่สินค้า
    ๐ มีสินค้ามาขายมากมายเหลือ มีหนังเสืองาช้างอันมีค่า
มีเขาควายน้ำตาลทรายก็มีมา    ดีบุกครั่งใบชาและพริกไทย
    ๐ เป็นเหมือนพรหมลิขิตชีวิตเขา อินจันเข้าเหยียบเขตประเทศใหม่
อเมริกาเป็นถิ่นแผ่นดินไกล       อันใครใครใฝ่ฝันดั้นด้นมา
    ๐ คนอื่นเสียเงินทองต้องลำบาก จึงข้ามฟากมหาสมุทรมาเทียบท่า
แต่อินจันเขาจ้างเหมือนช้างม้า  เอามาค้าขายให้คนได้ดู
    ๐ ที่สิบหกสิงหาน่าประหลาด ประวัติศาสตร์จดไว้ว่าคนคู่
ไซมิสทวินอินจันอันโฉมตรู        ได้มาสู่ประเทศอเมริกา
    ๐ประเทศใหม่ได้เกิดกำเนิดนาม ห้าสิบสามพระศกตกพรรษา
นายอินจันก็เกิดกำเนิดมา         ได้สิบแปดปีกว่ากับสามเดือน
    ๐ อันบุรุษแฝดใดในโลกนี้     คงไม่มีหมื่นแสนมาแม้นเหมือน
ไซมิสทวินอินจันเหมือนหมั่นเตือน มิให้เลือนลืมสยามนามอินจัน
    ๐ประธานาธิบดีเขามีอยู่         ชื่อว่านายแอนดรูวงศ์แจคสัน
พุทธศกสองสามเป็นสำคัญ       มีเศษน้ันได้เจ็ดสิบสองปี
    ๐นายอินจันไปอูยกู่ไม่กลับ   พรหมลิขิตบังคับเขาเต็มทีี
กลายเป็นคนเมริกันทุกวันนี้       แต่มีชื่อสืบเนื่องถึงเมืองไทย
    ๐ อินจันอยู่มะริกาไม่ผาสุก    ต้องทนทุกข์หม่นหมองแทบร้องไห้
ให้คนดูแสดงตัวอยู่ทั่วไป          เข้าอยู่ในละครสัตว์เป็นอัตรา
๐ ได้ค่าตัวต่ำลิบเดือนสิบเหรียญ ต้องภาคเพียรบั่นบากต้องตากหน้า
                                                   
ให้ดูสิ่งน่าอายในกายา             เหมือนคนบ้าปนสัตว์จัดแสดง
    ๐ บางทีต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด ให้เขาถอดเสื้อผ้าอยู่หน้าแห้ง
พวกฝรั่งไม่น้อยมันคอยระแวง   ว่าเสแสร้งเอ็นสัตว์ติดมัดไว้
  ๐ ต้องให้นายแพทย์มาตรวจตราก่อน เขียนอักษรประกาศขนาดใหญ่
ว่านายแพทย์มีชื่อเลื่องลือไกล  ได้ตรวจได้เช็คก่อนแน่นอนแล้ว
   ๐ ถึงกระนั้นพวกฝรั่งยังไม่เชื่อ ต้องถอดเสื้อให้เห็นเอ็นใสแจ่ว
เอ็นเนื้อคนดีดีไม่วี่แวว                จะแหกตาหาแก้วอะไรกัน
    ๐ พวกฝรั่งโสโครกก็โปกฮา   ล้อเลียนว่าต่างต่างอย่างขำขัน
ว่าไซมิสมังกี้นี่ดีครัน                  ตัวติดกันเสียด้วยซวยระยำ
     ๐ นายอินจันจะถลันเข้าเตะปาก มันถอยฉากหายหัวตัวก็ต่ำ
เตะไมถึงปากฝรั่งชั่งมีกรรม      แสนจะช้ำอุราต้องหากิน
    ๐ มิสเตอร์คอฟฟินก็สิ้นสุด    เป็นมนุษย์โหดร้ายใจเป็นหิน
อาหารดีไม่มีจะแตะลิ้น             เนื้อเค็มชิ้นหั่นผสมขนมปัง
    ๐ อันที่พักที่ผ่อนหลับนอนนั้น ติดอยู่ชั้นเพดานปานห้องขัง
แสนคับแคบแอบรกสกปรกจัง   หนูมานั่งเดินดูอยู่ทุกวัน
    ๐ ป้ายประกาศโฆษณาที่หน้าเต๊นท์ ใครอ่านเห็นถ้อยคำก็ขำขัน 
"อสูรกายไซมีส" อัศจรรย์         ตัวติดกันเหมือนปีศาจประหลาดตา
    ๐ แต่จันอินลูกจีนผสมไทย   มีจิตใจบึกบึนอย่างขึ้นหน้า
ขยัน อดทน ประหยัดเป็นอัตรา  กตัญญูสู้หน้าผู้เป็นนาย
    ๐ ซื่อสัตย์สุจริตไม่คิดหนี     ใจจงรักภักดีไม่รู้หาย
ศรัทธาพระเจ้าอยู่หัวไม่รู้วาย    จึงรอดตายคลายเศร้าเท่าทุกวัน 
    ๐ ทั้งฉลาดล่่วงรู้ทางสู้หนี    ทั้งรู้ทีแพ้พ่ายด้วยใจมั่น
ไม่หวั่นไหวใจกล้าเฝ้าประจัญ  มีมิ่งขวัญมั่นคงปลงจิตใจ
    ๐คุณสมบัติเหล่านี้มีครบถ้วน   จึงยืนทวนกระแสแม่น้ำไหล
คือกระแสโลกนี้ซึ่งมีภัย           ให้อยู่ได้รอดตัวทั้งชั่วดี 
    ๐ แพทย์เคยตรวจร่างกายทำนายว่า  คงไม่ช้านานตายกลายเป็นผี
คงจะต้องล้มตายวายชีวี              คนแบบนี้จิตใจไม่สบาย
    ๐ คงปรับตัวไม่ได้ในชีวิต       เพราะมันผิดผู้คนชนทั้งหลาย
คงจะต้องตรอมจิตชีวิตวาย        คงต้องตายอย่างช้าก็ห้าปี
    ๐ แพทย์เคยตรวจกายาจะผ่าตัด ก็ติดขันกายวิภาคยากเต็มที่
สายโลหิตเดียวกันในกายี         ผ่าตัดตายทันทีที่แยกกัน
    ๐ ครบสองปีครึ่งครันตามสัญญา นายคอฟฟินก็หาทำตามมั่น
กดขี่ใช้เช่นทาสอยู่ทุกวัน       ให้เมียมันสำทับบังคับบัญชา
    ๐ ถึงจะนอนป่วยอยู่ไม่ชูช่วย  ปล่อยให้ป่วยไม่พักจะรักษา
บังคับให้ขึ้นแสดงทุกแห่งมา   เหมือนแกล้งฆ่าให้ตายวายชีวัน
    ๐ ให้คนเขียนประวัติโดยชัดแจ้ง เหมือนจะแกล้งประจานให้เห็นขัน
ว่าลูกเจ๊กแม่ไทยยากไร้ครัน     ครอบครัวมันเบ็ดเสร็จสิบเอ็ดคน
    ๐ เจ็กกิมเฮ็งเตี่ยจีนต้องสิ้นใจ เพราะเกิดโรคห่าใหญ่ไม่เป็นผล
ต้องปล่อยลอยน้ำไปในสายชล ลูกเก้าคนตายห้าเพราะห่าลง
  ๐ ชื่อนายนาคนายเงินต้องเขินขัด นายทองถัดนางปรางและนางหงส์
ถึงนายอินนายจันนายมั่นนายคง นางนกลงเป็นแม่จนแย่ครัน
    ๐ขอค่าตัวเพิ่มมันก็สัญญา จะเก็บไว้ภายหน้าให้บากบั่น 
จะส่งให้แม่นกตลกยัน           แต่ว่ามันไม่เคยให้เลยละ
     ๐รอมาจนอายุลุยี่สิบเอ็ด   จึงเผด็จขอสิทธิอิสระ
ตามกฎหมายเมืองฝรั่งทางชะ จึงขอผละจากมันหมดสัญญา
    ๐ มันกลับมาต่อยถีบบีบบังคับ เหมือนดังกับจับมัดซึ่งสัตว์ป่า
ต้องกัดฟันสู้กันตาต่อตา               แยกออกมาเสรีไม่มีกลัว
    ๐ มันก็ตามรังควาญพานเอาผิด  ว่าเป็นสิทธิ์ของมันอยู่ถ้วนทั่ว
มันจ้างมาแสดงมีค่าตัว                   ต้องพันพัวนัวเนียเสียเงินทอง
    ๐ อินจันประกาศให้ใครใครทราบ ว่าเขามีเสรีภาพแล้วทั้งสอง
จ้างผู้จัดการเก่าเข้ารับรอง              ออกเที่ยวท่องทุกแห่งแสดงตัว
    ๐ จึงได้เงินได้ทองเป็นกองก้อน ท่องเที่ยวรอบประเทศของเขตทั่ว
ฝรั่งเศสอังกฤษไม่คิดกลัว              เงินไม่รั่วไหลทำบัญน้ำบัญชี
    ๐ จะใช้เงินแต่ละเหรียญเขียนไว้หมด ใช้ห้าเซ็นเป็นจดไว้เต็มที่
 มีทั้งผู้จัดการรู้งานดี                      ทำงานมีวางแผนทุกแดนไป
    ๐ จึงมั่ีนมีเงินทองเป็นกองก้อน  มีทุนรอนซี้อที่มาทำไร่
สร้างบ้านเรือนเหมือนฝรั่งมั่งมีไป   จนใครใครนับถือเลื่องลือชา
    ๐คิดจะใคร่มีเมียกันเสียเถิด       เสียแรงเกิดเป็นชายในใต้หล้า
ไม่เสียทีที่เกิดกำเนิดมา                มีบุตราสืบพงศ์วงศ์ตระกูล
    ๐ แต่เกิดกายมาติดผิดมนุษย์   ไม่สิ้นสุดอุปสรรคไม่สิ้นสูญ
  ใครจะแต่งกับเราเขาอาดูร         ต้องหารคูณนอนเคียงบนเตียงเต็ม 
   ๐ แต่ไม่ยอมอับจนเป็นคนกล้า  ใจเด็ดเดี่ยวเที่ยวมาทั่วฟ้าเขียว
จึงลงแรงแสวงหาพาลดเลี้ยว       ค่อยค่อยเกี้ยวสาวที่มีน้ำใจ
    ๐ได้พบสาวโซเฟียไม่เสียเที่ยว ฉลาดเฉลียวรุ่นราวสาวสมัย
พบอินจันพันผูกถูกฤทัย               หมั่นมาไปเยี่ยมเยียนวนเวียนมา
    ๐ เธอนึกรักอินจันฝันสวาท      ถึงขนาดเขียนกระวีศรีภาษา
"ฉันหลงรักเธอนักปักอุรา            ประหนึ่งว่าเป็นชายมีกายเดียว
    ๐ฉันหลงรักคุณอินถวิลฝัน      ฉันหลงรักคุณจันกระสันเสียว
ฉันอยากอยู่คู่รักเธอนักเชียว      อยากกอดเกี้ยวประคองทั้งสองคน"
    ๐ อินจันก็สมัครรักโซเฟีย      อยากได้เสียคู่สองสนองผล
แต่กฎหมายเมริกามาผจญ        หญิงหนึ่งคนผัวสองไม่ต้องธรรม
    ๐หญิงใดมีผัวสองจึงต้องห้าม มีผิดตามกฎหมายทุกเช้าค่ำ
ต้องติดคุกถูกปรับยับระยำ        จึงต้องจำเลิกร้างเหินห่างกัน
    ๐ โซเฟียไปแต่งงานสำราญจิต กับพ่อค้าพานิชสำคัญนั่น
ต้องว้าเหว่หวั่นถวิลแต่อินจัน     ยังใฝ่ฝันซาบซึ้งคะนึงใน
 ๐ ด้วยความรักแสนหวานสงสารสาว หนังสือพิมพ์เกรียวกราวลงข่าว
                                                           ใหญ่
จึงทำให้ผู้คนมาสนใจ               พากันไปดูหน้าคราแสดง
    ๐ ไปถึงกรุงลอนดอนนครใหญ่ อินจันได้แสดงกันอย่างขันแข็ง
ถึงเจ็ดเดือนเพื่อนตั้งอยู่กลางแปลง คนมีแรงมาชมกันสมใจ
    ๐ มีบาทหลวงชราเข้ามาเยี่ยม ตามธรรมเนียมศาสนาจะหาไหน 
ตั้งคำถามอินจันขึ้นทันใด           "เธอตายไปอยู่ไหนจงบอกมา"
    ๐ นายจันตอบทันทีมือชี้นั่น     "ขึ้นสวรรค์" แล้วก็หัวร่อร่า
บาทหลวงอึ้งตึงหน้าพึ่งมาเจอ    ไอ้สองเกลอกล้าหาญฉาดฉานจัง  ๐ ๐นายแพทย์กรุงลอนดอนกระฉ่อนข่าว รู้เรื่องราวชาวสยามในความ
                                                             หลัง
ว่าตัวติดชิดกันสนั่นดัง                จึงมานั่งจ้องเนตรสังเกตุเอ็น
    ๐ขอเข้ามาตรวจเอ็นให้เห็นแจ้ง บนเวทีที่แสดงให้คนเห็น
อินจันว่าอย่าแตะข้องแวะเว้น      ดูแต่ตาอย่าเล่นมาจับกู
    ๐ นายแพทย์ร้องตะโกนคนทั้งหลาย ว่าน่าอายหลอกต้มพวกผมอยู่
อินจันชกหมอกระเด็นคนเห็นกรู    ทุกคนผู้รุมตีนนายอินจัน
   ๐ ตำรวจเข้ามาห้ามไม่ขามเข็ด  เสียงคนเอ็ดตะโรคนโห่ลั่น
ผู้คนเข้าพันตูอยู่พันละวัน              อินจันน้ันหลบหลีกคอยปลีกตัว
    ๐ ถูกตำรวจจับตัวแล้วปรับไหม  สามร้อยเหรียญต้องให้มันทูนหัว
ค่าตุลาการด้วยซวยน่ากลัว            ค่อยยังชั่วเจ็บน้อยไม่ค่อยแรง
   ๐ ที่ฟิลาเดเฟียเกือบเสียท่า       คนเข้ามาจับมือเข้ายื้อแย่ง
จันจึงชกสะกัดเหวี่ยงวัดแว้ง          นอนแอ้งแม้งกับพื้นลุกยืนงง
    ๐ เรียกตำรวจมาจับให้ปรับไหม ศาลสั่งขังคุกไว้ตามประสงค์
อินว่าไม่ได้ชกไม่ตกลง                  ตุลาการก็งงสั่งปล่อยไป
    ๐ เพราะถ้าขังคุกจันวันนั้นแล้ว   คงไม่แคล้วเอาอินเข้าไปใส่
แต่อินไม่ได้ชกตกลงใจ                  จึงปล่อยให้สองคนไปพ้นคุก
    ๐ อินจันขึ้นรถไฟออกไปเที่ยว    ตั๋วใบเดียวไม่น่าจะขัดข้อง
นายตรวจไล่ลงดินนายอินมอง        ผมจะฟ้องรถไฟให้น่าดู
    ๐ นายตรวจลากนายอินลงดินไป นายจันไต่บรรไดลงไปคู่
นายตรวจร้องตะลึงเพราะพึ่งรู้         ให้นายอินจันอยู่บนรถไฟ
    ๐ นายฮาริสผู้จัดการของจันอิน   มีทรัพย์สินพอการแต่งงานได้
จึงเชิญแขกเชิญเหรื่อมาเหลือใจ    ให้มาในงานวิวาห์ในราตรี
    ๐ สาวสังคมพี่น้องกันสองสาว      เธอเป็นชาวไร่เขตเข้าเศรษฐี
พันเอเคอร์เศษไร่ใหญ่ยาวรี           ทั้งสองศรีมางานการวิวาห์
    ๐ ได้รู้จักมักคุ้นกับคุณจัน           มีสัมพันธ์คุณอินจนออกหน้า
ฮาดิเลตวัยสิบเจ็ดเป็นน้องยา         สาวซาร่าห์ย่างเข้าสิบเก้าปี
    ๐ นายอินว่าผมปักใจรักคุณ        แต่ว่าบุญน้อยหนอไม่พอที่
นายจันว่าการวิวาห์คงไม่มี             เพราะเราพี่น้องติดร่างชิดกัน
    ๐ นายจันปรารถนาจะแต่งงาน   ก่อนวายปราณเป็นศพไปสวรรค์
ฮาติเลตว่าฉันสงสารครัน               แต่ใครนั่นจะกล้าวิวาห์สอง
    ๐ นายอินว่าถ้าพี่มีวาสนา           จะขอคว้าซาร่าห์เป็นคู่สอง
นายจันว่าถ้าได้สมใจปอง              จะประคองอาติเลตพิเศษสตรี
    ๐ เลือดซาร่าห์อาดิเลตพิเศษสาว เป็นเชื้อชาวฮอลันดาสง่าศรี
ผสมเลือดไอริชอังกฤษมึ              มาอยู่ที่มะริกาในครานั้น
     ๐ วันหนึ่งคนทั้งสี่ก็มีโชค         นั่งรถโยกเข้าไปในเมืองนั่น
พวกชาวบ้านลือชานินทากัน        พิโรธลั่นว่าไม่มั่วตัวกาลี
    ๐ เอาก้อนหินไปปาบ้านยาเตส  บ้านบิดามาตุเรศของสองศรี
ตั้งแต่วันนั้นมาสองนารี                ถูกกักที่บ้านขังไว้ข้างใน
    ๐ เสียงนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไมชอกช้ำคล้ายคล้ายสายน้ำไหล
เหมือนถูกเข็มมาเย็บให้เจ็บใจ     ว่านิสัยวิตถารต้องการดัง
    ๐ เห็นฝาแฝดมีชื่อออกลือลั่น  จึงกระสันใจหวังจะดังมั่ง
บ้างก็ว่าวิตถารสงสารจัง              อยากจะนั่งสมสู่นั่งดูกัน
    ๐ อินจันตัดสินใจจะตายเป็น    จะตัดเอ็นมัดคู่กันอยู่นั่น
ถึงจะตายไปข้างก็ช่างมัน            เพราะหมายมั่นวิวาห์บูชารัก
    ๐ จึงนัดหมอผ่าตัดไม่ขัดข้อง แต่เป็นของเสี่ยงชีวิตคิดให้หนัก
อินจันยอมวายชีวาไม่ช้าชัก        สุดแต่กรรมนำจักให้เป็นไป
    ๐ เมื่อถึงโรงพยาบาลทำการผ่า แพทย์ก็มาตรวจตราอีกครั้งใหม่
นัดผ่าตัดวันรุ่งพรุ่งนี้ไซร้            ให้คนไข้เตรียมใจไว้ให้ดี
    ๐ อาดิเลตซาร่าห์โผล่มาถึง  ร้องไห้อึงน้ำตานองทั้งสองศรี
เข้าคัดค้านห้ามกันเสียทันที      กลัวชีวิตสองชายจะตายพลัน
    ๐ อินจันว่ายอมตายถวายให้  เพราะรักใคร่จริงแท้แม่จอมขวัญ
อาดิเลตร้องว่าอย่าอินจัน          จงนัดวันวิวาห์มาโดยไว
    ๐ ถึงจะตัวติดกันฉันไม่ว่า      จะวิวาห์ยอมตัวหากลัวไม่
เราทั้งสี่มีสุขไม่ทุกข์ใจ             อย่าเสี่ยงภัยให้พรากไปจากกัน 
    ๐ อินจันจึงยอมแพ้แก่สองศรี แล้วนัดหนีจดทะเบียนกับจอมขวัญ 
วันที่สิบเมษาวันสำคัญ              พุทธศกสองพันสามร้อยปี 
    ๐ กับมีเศษแปดสิบหกตกพรรษา ที่คาโรโล่น่าสง่าศรี
เสียหนึ่งพันดอลลารืประเพณี  หลักฐานมีปรากฎเขาจดไว้ 
    ๐ มีลูกสาวลูกชายมากมายนั่น ยี่สิบเอ็ดคนนั้นจำไม่ไหว
แต่งงานสี่อาทิตย์ช่างติดไว       อาดิเลตครรภ์ใหญ่คลอดธิดา
    ๐ สิบหกกุมภาพันธ์สำคัญสุด เธอคลอดบุตรสาวงามอร่ามหน้า
โจเซฟฟพินนามตั้งตามตำรา    บาทหลวงมาตั้งให้มิได้นาน
    ๐ สามสิบเอ็ดมีนาต่อมานั้น   ซาร่าห์นั้นคลอดบุตรสุดสงสาร
ชื่อจูเลียแอนนามตามโบราณ      ศาสนาคริสต์ขานเรียกธิดา           
                                         โปรดติดตามตอนต่อไป
          

    


วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นิทานโบราณกวีนิพนธ์ เรื่อง อินจันแฝดสยาม ตอนที่ ๑


นิทานโบราณกวีนิพนธ์ 

เรื่อง อินจันแฝดสยาม
ตอนที่ ๑
    ๐  รัชกา่ลที่สองมีของประหลาด    ที่เมืองราชินิกุลประยูรหงส์
   เมืองกำเนิดราชาสง่าวงศ์                กษัตริย์ที่สองครองราไชย 
     ๐ ยี่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี           เมื่อศกปีสองสามห้าสี่สมัย
พระพุทธเลิศหล้าหน้าทองขึ้นครองไทย ก็นับได้สองพรรษาในคราน้ัน 
   ๐ นางนกเมียกิมเฮ็งเก่งกว่าเพื่อน  ตั้งบ้านเรือนริมลำแม่น้ำนั่น 
ชื่อแม่กลองลำน้ำอันสำคัญ              ปากน้ำนั้นไกลสุดสมุทรสงคราม
   ๐ อยู่ตำบลแหลมใหญ่สมัยก่อน    ประชากรผู้คนไม่ล้นหลาม 
คนไทยทั้งประเทศทั่วเขตคาม         สำรวจยามนั้นประมาณห้าล้านคน
   ๐ ยังมีเจ๊กกิมเฮงคนเก่งกล้า          ลงสำเภาเข้ามาสมัยต้น
มาแต่ตัวล่อนแก่นยังแสนจน             มาได้คนไทยนั้นเป็นภรรยา
   ๐ นางนกเมียคนไทยมิใช่ย่อย       มีลูกบ่อยทุกปีดีนักหนา 
รวมเบ็ดเสร็จเก้าคนชนกันมา            รวมบิดามารดาสิบเอ็ดคน
   ๐ แต่ลูกชายสุดท้ายร้ายนักหนา    มีตัวติดชิดมาตั้งแต่ต้น
มีเอ็นยึดสีข้างมันช่างทน                  อยู่รอดพ้นโรคร้ายไม่ตายไป
    ๐ แม่นกตั้งชื่อนามตามประสา  เหมือนพฤกษาหน้าบ้านกิ่งก้านใหญ
ชื่ออินจันเหมือนผลของต้นไม้          ดูไสวเต็มต้นในหนนั้น
    ๐ ที่สิบเอ็ดพฤษภาเป็นราศี           ฝาแฝดนี้ตกฟากออกมานั่น
ศกสองสามห้าสี่ปีสำคัญ                   เตี่ยจำมั่นแม่นกแกตกใจ
   ๐ จะนั่งไหนนอนไหนต้องไปคู่       จะกินอยู่เยี่ยวขี้ต้องชิดใกล้
จะเล่นน้ำปล้ำปลาไปหาใคร              ก็ต้องไปเคียงคู่อยู่ด้วยกัน
   ๐ ปีสองสี่หกสองต้องอนาถ      เพราะโรคห่ามาระบาดน่าหวาดหวั่น
คนล้มตายไม่น้อยนับร้อยพัน        ครอบครัวแม่นกนั้นมีเคราะห์กรรม
   ๐ เจ๊กเฮงลูกหญิงชายต้องตายจาก เพราะโรคห่ามาพรากทุกเช้าค่ำ
ช่างตายได้ตายดีผีมาซ้ำ                 ปล่อยลอยน้ำอุทกไปหกคน 
   ๐ เหลือลูกอีกสี่คนจึงจนยาก        คนอดอยากปากแห้งทุกแห่งหน
แม่ลูกนกสี่คนจึงยากจน                  ต้องจำทนกินดิ้นรนไป
   ๐ ศกสองสี่เจ็ดหกไม่เสร็จเศร้า    ข่าวพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่
สวรรคตหมดบุญสิ้นสูญไป              พวกคนไทยโกนหัวทั่วแผ่นดิน
   ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ ครองสมบัติแทนบิดาน่าถวิล
ผูู้คนค่อยเฟื่องฟูการอยู่กิน             เพราะพระองค์ทรงศีลเป็นสำคัญ
   ๐ พระเป็นพระผู้โพธิสัตว์มาตรัสรู้ เกิดมากู้บารมีชาตินี้นั่น
ทรงสร้างวัดวาฝากไว้มากครัน        บางช้างน้ันสร้างวัดด้วยศรัทธา
   ๐ ทรงทราบข่าวอินจันสำคัญนัก จึงใคร่จักทอดเนตรสังเกตหน้า
จึงจัดเรือสุวรรณเรือกัญญา            เรือหลังคาแดดจ้านั้นมารับ
   ๐ นางนกจึงมอบหมายลูกชายคู่ เข้าไปสู่วังเจ้าเขามาจับ
ว่าคลอดบุตรผิดเพศเหตุบังคับ      จึงสั่งกับลูกชายว่าร้ายดี
   ๐ แม่ไม่มีอะไรจะให้เจ้า              จงฉีกเอาผ้านุ่งของแม่นี่
เป็นประเจียดกันภัยสิ่งไรมี             จึงนึกหน้าแม่นี้อยู่ในใจ
   ๐ อินจันรับเข้าวังในครั้งโน้น       ยังไม่โกนเปียน้อยที่ห้อยไหล่
อายุย่างสิบสามยังทรามวัย            มีบุญได้เข้าเฝ้าเจ้าชีวิต
   ๐ พวกเจ้านายขุนนางต่างเซ็งแซ่ เข้าเพ่งจ้องมองแลเข้าสนิท
สาวสวรรค์กำนัลในเข้าใกล้ชิด       พระนั่งเกล้าเจ้าพิศพอพระทัย
   ๐ โปรดประทานของขวัญอันมีค่า มีเสื้อผ้าข้าวของมากองให้
ทั้งเงินทองของกินและสินใช้          แล้วจึงได้กลับมาหามารดร 
   ๐ มีเงินซื้อเป็ดเลี้ยงส่งเสียงก๊าบ  จึงได้ลาภจากไข่ไม่หยุดหย่อน
เลี้ยงเป็ดไข่ขายเขาชาวนคร           มีทุนรอนมั่งคั่งขึ้นตั้งตัว
   ๐ มีเป็ดดีสีขาบให้ลาภมาก          มันผิดจากเป็ดล้วนอยู่ถ้วนทั่ว
มันฉลาดเหลือใจขึ้นไต่รั้ว               มิใช่ชั่วไต่ลวดอวดทุกวัน
   ๐ มันไต่ลวดเส้นเดียวน่าเสียวไส้ มันขึ้นไต่เล่นกลเช่นคนนั่น
เศรษฐีใหญ่มาอ้อนวอนทุกวัน        ขอซื้อมันไปเลี้ยงเพียงเจ็ดคืน
   ๐ เป็ดสีขาบก็ตายวายชีวิต          เพราะมันคิดถึงเจ้าของต้องข่มขืน
มันไม่กินข้าวน้ำไม่กล้ำกลืน           มันนิ่งยืนตายเสร็จในเจ็ดวัน
   ๐ แม่นกบอกว่าเตี่ยเขาเสียใจ     มาเกิดใหม่ให้ลาภสีขาบนั่น 
เมื่อต้องห่างไกลลูกที่ผูกพัน          มันจึงกลั้นใจตายใจหายครัน
   ๐ ปีสองสามเจ็ดสองก็หมองเศร้า มีสำเภาขึ้นล่องแม่กลองนั่น 
มิสเตอร์ฮันเตอร์ตัวสำคัญ              ทั้งกัปตันคอลฟินได้ยินยล
   ๐ เข้ามาดูฝาแฝดเจ็ดแปดคร้ัง    เข้ามานั่งเรือนแม่นกถึงหกหน
ว่าขอซื้ออินจันลูกคนจน                ไปให้ชนชาวฝรั่งเขานั่งดู  
   ๐ มันให้สามพันดอลล์แต่ก่อนเก่า มีค่าเท่าเงินไทยไม่น้อยอยู่
แม่นกไม่ขายลูกดูถูกกู                  มันก็ทู้วิงวอนจนอ่อนใจ
   ๐ หนักหนักเข้าขอเช่าสองปีครึ่ง มันให้ถึงห้าร้อยหาน้อยไม่
เงินดอลลาร์ห้าร้อยจะว่าไป           เป็นเงินไทยร้อยชั่งมั่งคั่งนัก
   ๐ แม่นกไม่ยอมให้ไม่ไว้หน้า      พวกฝรั่งมังค่าไม่รู้จัก
นายคอฟฟินหายหน้าไม่ช้าชัก       มันก็มักมาใหม่ลูกไม้ดี
   ๐ มันไปกราบทูลเล่าเจ้าอยู่หัว    ว่าขอตัวอินจันทั้งน้องพี่
ไปเข้าเฝ้าเจ้าญวนชวนไมตรี         ให้เป็นที่รักกันสัมพันธมิตร
   ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าเห็นเป็นประโยชน์ อยากจะโปรดญวนไว้ให้สนิท
จึงประทานทูตไทยไปใกล้ชิด       ประกาศิตอินจันให้มันเอา
   ๐ เจ้าฝรั่งมังค่าปัญญามาก        มันก็บากบั่นต่อมาขอเข้า
ถ้าแม่นกไม่ให้ก็ใจเบา                  เกรงพระเจ้าชีวิตผิดพระทัย
   ๐ อินจันว่าแม่ให้เขาไปเถิด     เดี๋ยวจะเกิดความเมืองเป็นเรื่องใหญ่
เพียงสามเดิอนจะกลับมาฉับไว     แม่อย่าได้ห่วงหาลูกยาเลย
   ๐ แม่นกนึกใจอ่อนลูกอ้อนออด  ไม่ทิ้งทอดแม่ไปไหนเฉยเฉย
ลูกก็เต็มใจไปได้ภิเปรย                 ลูกไม่เคยลืมคุณของมารดา 
   ๐ จึงมอบลูกให้ไปร้องไห้สั่ง       ให้ฝรั่งปกปักษ์ช่วยรักษา
มันให้เงินห้าร้อยเคลื่อนคล้อยลา   ว่าจะพาเที่ยวเฟื่องถึงเมืองญวน
   ๐ ปีสองสามเจ็ดศูนย์พูนสวัสดิ์    จึงต้องตัดใจปลิดจิตกำสรวล
จำต้องไกลจากอกแม่นกนวล         ต้องคร่ำครวญจากลำแม่น้ำกลอง
   ๐ เข้าบางกอกออกลำแม่น้ำกว้า ต้องเดินทางเคลื่อนคล้อยนั่งลอย
ล่อง
    ถึงแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำตานอง     สำเภาทองลำใหญ่ใช้ใบกาง
   ๐ กลาสีไม่น้อยสักร้อยกว่า         มีสินค้ามากยิ่งสิ่งต่างต่าง
    ทั้งข้าวสารน้ำตาลและงาช้าง   ไปค้าทางเมืองญวนจวนเวลา
   ๐ เรือออกจากเจ้าพระยาหันหน้าเร่ ออกทะเลคลื่นลมระดมกล้า
ต้องเมาคลื่นขื่นขมต้องดมยา          กินข้าวปลาไม่ได้ไปหลายวัน
   ๐ เรือสำเภาเข้าทอดจอดตามท่า ซื้อสินค้าเครื่องเทศตามเขตขัณฑ์
ขายข้าวสารน้ำตาลของไทยนั้น      ฝรั่งมันซื้อของตามรายทาง
   ๐ สี่สิบสองวันเศษถึงเขตขัณฑ์    กรุงไซ่ง่อนก่อนน้ันอยู่ไกลห่าง
เจ้าเมืองญวนจำนงให้ส่งช้าง          สิบสี่เชือกต่างรับทูตไทย
   ๐ ราชทูตของไทยที่ไปด้วย         ก็ได้ช่วยอินจันประกันให้
ทางเมืองญวนยำเยงคิดเกรงใจ       ส่งช้างใหญ่รับสิ้นทั้งอินจัน 
   ๐ เขาชักรอกอินจันขึ้นชั้นช่อ        ให้นั่งคอขึ้นนั่งหลังช้างนั่น
ฝูงชนก็สารพาเข้ามาพลัน               เฮโลกันแห่ห้อมเข้าล้อมดู
   ๐ ทหารญวนใช้ไม้เข้าไล่ตี           ฝูงชนหนีแตกซ่านเหมือนหมาหมู
ทหารร้อยนายล้อมเข้าพร้อมพรู      ป้องกันหมู่คนบ้าเข้ามารุม 
    ๐ พักอยู่เมืองไซ่ง่อนกระฉ่อนเรื่อง พวกชาวเมืองมุงหน้ามารุมตุ้ม
ต้องส่งกองทหารม้าเข้ามาคุม        อินจันหนุ่มเที่ยวเฟื่องในเมืองญวน
   ๐ เขาต้อนรับทูตไทยอย่างใหญ่โต มีเล่นโอ่อวดดีอย่างถึ่ถ้วน
เอาเสือมาสู้ช้างกลางกระบวน        ว่าญวนล้วนกลัวเสือเหนือกว่าไทย
   ๐ ช้างมันกลัวเสือกัดสะบัดไม่หลุด มันจึงหยุดไม่กล้าเข้ามาใกล้
ควาญก็ตีช้างซบสลบไป               เอาช้างใหม่ตัวที่สองลองกำลัง
   ๐ ช้างมันตกมันบ้าคว้าไมอยู่      ควาญช้างผู้อาภัพถูกจับนั่ง
เพชรฌาตตัดคอมรณัง                  นายอินจันหันหลังไม่อยากดู
 ๐ เขาเอาช้างเชือกใหม่ใส่พะเนียด แล้วแล่นเฉียดเสือสางหมดทางสู้
เพราะเขาผูกคอไว้ไม่ให้รู้               ช้างจับชูเชือกแว้งขึ้นแกว่งไกว
   ๐ เชือกที่รัดคอเสือไว้เหลือหลาย จนเสือตายตกดินดิ้นไม่ไหว
อันคนญวนทั่วถ้วนน่ากลัวใจ           เขาดูได้ดูดีไม่มีธรรม
   ๐ เขาจัดให้กองทหารชาญสนาม ทำสงครามกับช้างช่างน่าขำ
น่าสมเพศเวทนาไม่น่าทำ              อวดว่าช่ำชองยุทธ์สุดประมาณ
   ๐ เขาให้กองพลทหารชำนาญรบ ไปนั่งหลบไม้ในกองไพรสาณฑ์
แล้วปล่อยโขลงช้างมาไม่ช้านาน   ให้ทหารจุดไฟลุกไหม้แดง 
   ๐ ช้างก็แตกตื่นไฟไหม้โชติช่วง  ทหารหลวงมีชื่อฝีมือแสยง 
ยิงธนูถูกช้างอยู่กลางแปลง            ช้างยืนแข็งอยู่กับที่ไม่หนีไป
   ๐ เพราะว่าถูกควาญช้างมันคว้าขอ เข้าสับหัวช้างล่อทนไม่ไหว 
ฝ่ายทหารตัวดีก็มีชัย                      อินจันได้ชมดูห่ดหูนัก 
   ๐ ยี่สิบวันผ่านไปมิใช่ย่อย            เฝ้าแต่คอยพระองค์ผู้ทรงศักดิ์
คือพระเจ้ากรุงญวนจะชวนชัก         คณะทูตไทยไปคำนับ
   ๐ นายอินจันไม่ได้ไปไหนอีก       ต้องหลบหลีกผู้คนที่สนสับ
เข้ามาห้อมล้อมดูดูยุบยับ                เหลือจะรับประทานพลุกพล่านไป
   ๐แล้วพระเจ้ากรุงเว้มเหศร           ก็จัดต้อนรับราชทูตใหญ่
ส่งเรือหลวงมารับโดยฉับไว            ให้ขึ้นไปเฝ้าเฟื่องที่เมืองเว้
    ๐ ราชทูตไทยเราเข้าเฝ้าแหน     หน้าพระแท่นเจ้านั่นไม่หันเห
เจ้าญวนทักถามกันอยู่นานเน          แล้วสรวลเสผินผันดูอินจัน
    ๐ ตรัสว่าเมืองเรามีอยู่ถี่ถ้วน        ฝาแฝดล้วนมีอยู่หลายคู่นั่น
แต่เราไม่ใคร่เห็นเป็นสำคัญ            เพราะของมันธรรมดาฝาแฝดไทย
     ๐ ทางเมืองญวนถือว่าคนอาภัพ  เป็นสิ่งอัปมงคลชนชั้นไพร่
เราไม่เลี้ยงคนแฝดแปดเปื้อนไป     เราขับไล่ให้ออกไปนอกเมือง
     ๐ ทรงโอภาปราศรัยพระทัยซื่อ  น่านับถือเจ้าเชื้ออยู่เหลือหลาย 
ยังประทานของฝากให้มากมาย      ไม่อับอายเกิดตนเป็นคนไทย
    ๐มอบของขวัญบรรณาการฝากสารทูต ให้ช่วยพูดจาเล่าเจ้ากรุงศรี
ว่าญวนรับทูตไทยด้วยไมตรี            เจ้ากรุงไทยได้มีเมตตาเรา 
    ๐ องค์พระพุทธยอดฟ้ามหาราช ทรงช่วยชาติญวนร้อนมาก่อนเก่า
 องเชียงชุนเชียงสือนับถือเอา         พระยอดฟ้าเป็นเจ้าบุญคุณมา 
     ๐ สิ้นสามวันท่านทูตเดินทางกลับ เรือญวนรับส่งให้ไปถึงท่า
กลับไซ่ง่อนจรเนื่องเมืองนานา        เข้าถึงเจ้าพระยามหานคร
     ๐ เข้าเฝ้าพระนั่งเกล้าเจ้าชีวิต    ทูตทูลกิจต่อองค์พระทรงศร
พระทรงพอพระทัยตรัสให้พร          ให้เงินทองกองก้อนเป็นรางวัล
    ๐ อินจันได้ลาภทานจากผ่านฟ้า  รีบกลับมาแม่กลองมอบของขวัญ  ให้แม่นกยกให้มากมายครัน            นายอินจันต้ังใจไปเมริกา 
     ๐มิสเตอร์ฮันเตอร์พาเพ้อฝัน      ให้อินจันอยากไปเมืองไกลกว่า
อยากเห็นบ้านเมืองไกลในโลกา     ที่ก้าวหน้ารุ่งเรืองกว่าเมืองไทย
     ๐ ส่วนกัปตันคอฟฟินขนสินค้า   คือปืนผามาขายถวายใหม่
พอดีเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ไกล      คิดขบถคตใหญ่ยกทัพมา
     ๐ พระนั่งเกล้าเจ้าชีวิตจึงคิดปราบ ให้ราบคาบลงไปไม่ใหญ๋กล้า
ซื่้ออาวุธกัปตันไม่ทันช้า                 โปรดเมตตาคอฟฟินสินน้ำใจ
     ๐ มิสเตอร์ฮันเตอร์เมื่อเจอมิตร  จึงได้คิดตีสนิทเข้าชิดใกล้
 สองฝรั่งวางแผนคิดกาลไกล         ชวนกันไปแม่กลองรับรองกัน
     ๐ให้เงินแม่นกหน่อยให้ปล่อยบุตร ไม่ยื้อยุดห้ามหวงคอยถ่วงนั่น
แต่ไว้ใจใต้ลิ้นนายอินจัน                 เขาเชื่อมั่นกัปตันว่าใจดี 
    ๐ สามสิบเอ็ดมีนามหาโชค         อินจันต้องท่องโลกให้เต็มที
ออกจากแม่กลองนั้นไปทันที          แม่นกพี่น้องได้พร้อมใจกัน
    ๐ มองเห็นหน้าลูกชายใจหายคว่ำ เห็นหมองคล้ำรู้สึกนึกสังหรณ์
เห็นหน้าคร้ังสุดท้ายไม่ม้วยมรณ์    แม่จะต้องตายก่อนหรืออย่างไร
     ๐ จึงกอดลูกอินจันรำพันว่า       กลับให้แม่แลหน้าให้จงได้
ขอฟ้าดินจงโปรดคุ้มโทษภัย         กลับมาให้แม่เห็นก่อนเป็นตาย 
     ๐ นายอินจันอั้นอึ้งคิดถึงแม่      เฝ้าแต่แลแล้วเล่าเศร้าใจหาย
แต่ต้องทำองอาจว่าชาติชาย         ร้องไห้อายฝรั่งมันนั่งมอง 
    ๐ ขึ้นบนเรือสำเภามีเสาใบ            เป็นเรือใหญ่เหลือที่ไม่มีสองเรือ"ซาเค็มใหญ่เขื่องดูเรืองรอง แล่นออกท้องทะเลลึกเหลือตรึกตรา
     ๐ หันหน้ามองอ่าวไทยแล้วใจเศร้า แม่นกเฝ้าร้องไห้อาลัยหา
นับแต่วันนี้ไปมิได้มา                      ไม่เห็นหน้าแม่แล้วต้องแคล้วกัน 
    ๐ แต่นึกใหม่มิใช่จะไปลับ          เราต้องกลับมาแน่ไม่แปรผัน
สองปีครึ่งไม่นานนักหนาครัน         คงมีวันเห็นหน้ามารดาเรา
 ๐ แลเห็นนกนางนวลบินสวนทาง ใจอ้างว้างเลื่อนลอยแสน
                                                       หงอยเหงา
 นกนางนวลเหมือนแม่ไม่บางเบา   โอ้นกเจ้าลอยธารเหมือนมารดา
    ๐ เจ้านกน้อยลอยเร่ทะเลหลวง  เปรียบเหมือนดวงใจแม่ชะแง้หา
นกนางนวลเจ้าเอ๋ยจะเลยลา           บอกแม่ว่าลูกชายจะตายรัง 

โปรดติดตามตอนต่อไป  


     
     













  



                  

           

     

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

เพลงยาวแม่น้ำแม่กลอง (นิราศท่าดินแดง)



๐จากคลองบางนกแขวกมาแยกขวา   เหาะทวนมาตามลำแม่น้ำไหล
นิราศท่าดินแดงแจ่มแจ้งใจ                 นึกย้อนไกลเมื่อสมัยสองร้อยปี
ครังพระพุทธยอดฟ้ามหาราช              เสด็จยาตราทัพมาถึงนึ่
ไปรบรับศัตรูหมู่ไพรี                            ยกทัพตีท่าดินแดงดั่งแจ้งใจ
ยกกระบวนพยุหพลทางชลมารค      อันหลายหลากมาตามลำน้ำใหญ่
จำนวนพลสองหมื่นน่าตื่นใจ               ทั้งเรือโล่เรือรบมีครบครัน
เสียงไชโยโห่ร้องกึกก้องฟ้า               เสียงนาวาพันลำซ้ำสนั่น
คลื่นระลอกกระฉอกฝั่งไปทั้งวัน         คร้ังกระนั้นทำศึกดูครึกโคร
มีเรือทรงพระชัยนำไปหน้า                 ทหารกล้าอึกทึกแห่ฮีกโหม
มีพิณพาทย์ระนาดฆ้องกลองประโคม เข้าจู่โจมศึกคะนองในท้องธา
มีเรือพระที่นั่งบัลลังก์แก้ว       อันเพริดแพรวลอยผงาดอย่างอาจหาญ
พรั่งพร้อมเรืออำมาตย์ราชบริพาร แล่นขนานแวดล้อมอยู่พร้อมเพรียง
ครั้นถึงบางนกแขวกก็แปลกโปรด    สดับโสตรนกแขวกแสกแสกเสียง
พระนิพนธ์เพลงยาวกล่าวจำเรียง      ขอเชิญเอียงโสตรมาฟังคารม

" มาถึงย่านบางนกแขวกแสกเสียง     สะท้านใจเพียงใจจะหล่อล่ม
เคยฟังเสียงโคมขานสำราญรมย์        ครั้งนี้มาระงมแต่เสียงนก
ยิ่งคิดคิดอนิจจาใจเอ๋ย                      ใครจะเลยจะเล็งเห็นหัวอก
ได้ความระกำใจมาหลายยก              เพราะจะต้องปิดปกให้พ้นภัย
มิให้หมู่พาลาอาธรรม์                        มาย่ำยีเขตขัณฑ์บุรีได้
จึงสู้เสียสละรักหักใจ                         มาทนเทวษอยู่ไกลเอกา..."

โอ้แม่น้ำแม่กลองที่นองไหล             เคยไหลหลั่งดังนี้พันปีกว่า
เป็นทางน้ำคนได้เคยไปมา               มีเรือค้าขึ้นล่องในท้องธาร
มีองค์พระราชามหาราช                    เสด็จยาตรยกพหลพลทหาร
ไปรบศึกศัตรูผู้รุกราน                        ป้องกันบ้านเมืองไทยแต่ไรมา
ชมแม่กลองกวีวรรณพรรณนา           อ่านแล้วพาซาบซึ้งคนึงใน
น้ำแม่กลองไหลหลั่งอยู่ดังนี้             อีกพันปีก็ยังคงหลั่งไหล
แต่วัดวาอารามงามวิไล                  คงเปลี่ยนไปรูปโฉมและโนมพรร
อันชื่อเสี่ยงเรียงนามอารามนี้               คงยังมีติดถิ่นแผ่นดินมั่น
ถึงวัดใดโรยร้างไปกลางคัน                ชื่อเสียงนั้นคงมีอยู่ที่กลอ


วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

เพลงยาวแม่น้ำแม่กลอง (๑)



เพลงยาวแม่น้ำแม่กลอง 



                               ๐เพลงยาวแม่กลองคิดนิมิตรฝั

                                 เทพสุนทรศารทูลพุนประพันธ์
                                 เพื่อสืบวรรณคดีกวีพจน์
                                ๐ฝันว่าท่องเที่ยวเฟื่องเมืองแม่กลอง
                                  ได้ลอยล่องเหินฟ้าเห็นปรากฎ
                                  ชมแม่น้ำลำคลองล่องเลี้ยวลด
                                  แลเคี้ยวคดไปมาคู่อาราม
                                 ๐ ชมตำบลหมู่บ้านสถานถิ่น
                                   ชมแผ่นดินเขียวขจีศรีสยาม
                                   ชมเรือกสวนปรากฎอยู่งดงาม
                                   ชมทะเลสีครามผ่องอำไพ
                                  ๐ เกิดตาทิพย์เห็นได้ในประวัต
                                  เรืองจังหวัดแม่กลองอันผ่องใส
                                  รู้เรื่องราวเก่าก่อนย้อนไปไกล
                                  ดุจเทพไทดลจิตประสิทธี
                                  ๐จึงแต่งตามความฝันอันจรัส
                                   เล่าประวัติแม่กลองนทีศรี
                                   เป็นคำกลอนอ่อนหวานการกวี
                                   จะได้มีกลอนอยู่เป็นคู่เมือ
                                  ๐ หวังจะฝากชื่อไว้ในแผ่นดิน
                                  ได้มากินมาอยู่อย่างฟูเฟื่อ
                                   เป็นชั้นตรีโทเอกเอนกเมือง
                                   ถึงชั้นเขื่องพิเศษในเขตคาม
                                   ๐มาได้บุตรภรรยาเป็นราศรี
                                   เป็นนายแพทย์สตรีศรีสยาม
                                   มีเรือกสวนไร่นาราคางาม
                                   จึงมีความกตัญญูรู้คุณธรรม
                                   ๐จงฟังเรากล่าวกลอนสุนทรพจน์
                                   เพื่อยอยศแม่กลองทำนองร่ำ
                                   เพื่อภายหน้าปรากฎได้จดจำ
                                   เป็นลำนำแม่กลองนองนที