สร้างสมัยอยุธยามาช้านาน แต่โบราณชื่อมีศรีจำปา
แต่ร่วงโรยรกร้างในปางหลัง เป็นป่าบังปึกแผ่นไม่แน่นหน
พม่าตีกรุงศรีอยุธยา คนก็พาอพยพมาหลบภัย
พวกบ้านแหลมเพชรบุรีหนีมาอย
เรียกบ้านแหลมเวลาใครมาไป วัดจึงใช้ชื่อบ้านโบราณนั้น
บ้านแหลมใกล้ปากอ่าวชาวประม
ออกไปลากปากอ่าวคราวสำคัญ อวนไปพันพระทองมาสององค์
องค์หนึ่งเป็นพระนั่งค่อนข้
แก่ญาติชาวเขาตะเคราเป็นเผ่
กลายเป็นพระศักดิ์สิทธิ์สัม
ผู้คนเล่าขานมานานครัน จนทุกวันนี้ชื่อก็ลือชา
๐อีกองค์หนึ่งอุ้มบาตรขนาดใ
วัดบ้านแหลมมีพระปฎิมา จึงเรียกว่าหลวงพ่อบ้านแหลม
ต้ังแต่ได้หลวงพ่อบริสุทธิ์
วัดหลวงพ่อริมน้ำค่อยสำคัญ ผู้คนหมั่นบูชามาทุกปี
เมื่อหลวงพ่อมาครองก็ผ่องผุ
จนแผ่นดินจอมเกล้าเจ้าธานี นับได้สี่รัชกาลที่ผ่านไป
รัชกาลที่ห้ามีสาเหตุ เกิดภัยเภทลุกลามเกิดความไข
มีโรคห่าระบาดอนาถใจ ทั้งจีนไทยตายกันนับพันคน
ลุ่มแม่น้ำแม่กลองทุกคลองลั
ตายเช้าสายบ่ายค่ำทุกตำบล ลอยมาในสายชลไม่เว้นวัน
พระสนิทสมณคุณนอนครุ่นคิด หลับสนิทในยามสามสงัด
ฝันเห็นหลวงพ่อใหญ่ในมนัส โดยแจ่มชัดบอกยาตำราดี
ให้ไปจดคาถาหัตถ์ขวาซ้าย อยู่ที่กายปฎิมาสง่าศรี
มีแปดคำคาถาสุวาที เสกวารีอาบกินโรคสิ้นแล
ครั้นสิ้นฝันเท่านั้นก็พลัน
ยังจำได้แม่นมั่นไม่ผันแปร หลวงพ่อแก่เข้าฝันสำคัญนัก
สมภารวัดบ้านแหลมเห็นแจ่มแจ
จุดเทียนไขไปสะกิดเจ้าศิษย์
เห็นคาถาแปดคำเป็นสำคัญ ขนลุกชันจดจำซึ่งคำพระ
เอามาทำน้ำมนต์ให้คนอาบ กินแล้วราบคาบโรคโศกสละ
ป่วยก็หายไข้หล่นเหมือนฝนชะ
ใครได้อาบน้ำมนต์ทุกคนผู้ ที่ป่วยอยู่ก็ฟื้นลุกขึ้นนั
ว่าเห็นพระผู้เฒ่าเล่าให้ฟั
๐ พระคาถาศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์
ยามทุกข์โศกโรคามายายี คาถามีเป็นภาวนามัย
พระคาถาท่านมีอย่างนี้นะ ว่า "นะ มะ ระ อะ"มตะสาร
"นะ เท วะ อะ" พระอวตาร พระนิพพานเบื้องบนดลพระทัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น